เขาได้รับตำแหน่งอันทรงเกลียดนี้ด้วยความสามารถล้วนๆ ไม่ใช่บังเอิญ
สื่อนอกยก “ทักษิณ” ติด 1 ใน 5 “อดีตผู้นำที่เลว”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 ตุลาคม 2553 18:29 น.
“ฟอรีน โพลิซี” สื่อนอกในเครือวอชิงตันโพสต์ ตีพิมพ์บทความ “อดีตผู้นำที่เลว” ยก “ทักษิณ” เทียบชั้นอดีตผู้นำเยอรมนี-สเปน-ไนจีเรีย รวมทั้ง “โจเซฟ เอสตราดา” อดีตผู้นำทรราชของฟิลิปปินส์ ยกเหตุคอร์รัปชัน-ละเมิดสิทธิมนุษยชน นำไปสู่การถูกยึดอำนาจ ทำแสบปลอมชื่อพำนักในเยอรมันนานนับปี แถมพกพาสปอร์ตผิดกฎหมาย ชี้ เสื้อแดงเผาเมืองเป็นความโกธรเกรี้ยวที่ตอบโต้รัฐบาล ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานคอร์รัปชันจริง นับแต่หลบหนีออกนอกประเทศ
เว็บไซต์ www.foreignpolicy.com ซึ่งเป็นของนิตยสาร “ฟอรีน โพลิซี” (Foreign Policy) เจ้าของเดียวกับหนังสือพิมพ์ เดอะวอชิงตัน โพสต์ ได้ตีพิมพ์บทความที่ชื่อว่า Bad Exes หรือ “อดีตผู้นำที่เลว” โดยผู้เขียนที่ชื่อ Joshua E.Keating เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเนื้อหาในเว็บไซต์แห่งนี้ ยังตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Foreign Policy ซึ่งแบ่งออกเป็น 7 ภาษา ได้แก่ อารบิก บูกาเรีย ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น โปรตุเกส เกาหลี และ สเปน อีกด้วย
บทความดังกล่าวมีเนื้อหาโดยสรุประบุถึงพฤติกรรมผู้นำประเทศ ที่เป็นตัวอย่างไม่ดีในการบริหารประเทศ โดยในตอนต้น บทความดังกล่าว ระบุว่า นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีเกือบทั้งหมด เมื่อลาจากตำแหน่งอันยิ่งใหญ่แล้ว ก็มักจะอุทิศชีวิตสร้างสรรค์สิ่งที่งดงามให้แก่โลก หรืออย่างน้อยก็หลีกเร้นเข้าสู่โลกสมถะ แต่ยังมีอดีตผู้นำอีก 5 คน ซึ่งไม่เคยมีวิถีเช่นนั้นเลย
สำหรับอดีตผู้นำประเทศที่ถูกพูดถึงในบทความ ได้แก่ นายแกร์ฮาร์ด ชโรเดอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี, นายโคเซ มารีอา อัซนาร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของสเปน, นายโอลูเซกัน โอบาซันโจ อดีตประธานาธิบดีของไนจีเรีย, นายโจเซฟ เอสตราดา อดีตประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย โดยมีเนื้อหาที่กล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ดังต่อไปนี้
พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในปี 2543-2549 ท่ามกลางข้อกล่าวหาคอร์รัปชัน และละเมิดสิทธิมนุษยชน เหตุการณ์รัฐประหารในปี 2549 ก็ได้ทำให้ทักษิณหลุดพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้น เขาก็ใช้ชีวิตไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง ต้องเดินทางไปมาหลายประเทศ ในการนี้อดีตเศรษฐีนักธุรกิจอย่างทักษิณ ก็ได้รับตำแหน่งอีกหลายตำแหน่งจากบรรดามิตรประเทศ เช่น ทูตพิเศษของนิการากัว ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของกัมพูชา และกลายมาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี เป็นเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ทักษิณต้องปลอมชื่อตนเอง เพื่อหลบลี้ภัยอยู่ในเยอรมนีนับปี อีกทั้งยังได้ใช้หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ที่ออกโดยผิดกฎหมายจากหลายประเทศ ทว่า ตอนนี้เขาพำนักอยู่กับบ้านของเขาที่ดูไบ
ในปีนี้ กลุ่มเสื้อแดง ผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยึดพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ และสร้างความโกลาหลเผาทำลายศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ นี่คือ ความโกรธเกรี้ยวที่ตอบโต้ความพยายามของรัฐบาลในการสลายการชุมนุม ในการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมที่ติดอาวุธกับตำรวจก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะยินยอม ยุติ ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 90 คน ศาลได้พิพากษา พ.ต.ท.ทักษิณผู้หลบหนีคดี ว่า ยุยงปลุกปั่นให้เกิดการชุมนุมประท้วง แม้ครั้งหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เคยเดินสายบอกกับชาวบ้าน ว่า ผมจะทำให้คนไทยทุกคนเป็นคนรวย ถ้าหากพวกผมได้กลับมามีอำนาจทางการเมือง แต่ทักษิณก็ยังคงปฏิเสธว่าเขาให้เงินทุนแก่กลุ่มเสื้อแดง แม้ว่าทักษิณจะอ้างว่า ทุกข้อกล่าวหาที่เขาได้รับเป็นแรงกดดันทางการเมือง แต่เขาก็ได้ถูกตัดสินไปแล้วว่ามีความผิดฐานคอร์รัปชันจริง นับแต่วันที่เขาหลบหนีออกนอกประเทศ
หลังจากความพ่ายแพ้ของกลุ่มเสื้อแดง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็หันมามีบทบาททางการเมืองผ่านสื่ออีกครั้งในเดือนสิงหาคม 2553 ทักษิณได้คืนตำแหน่งที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้แก่กัมพูชา เพื่อลบความบาดหมางของทั้งสองประเทศ
วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553
วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553
สมิทธฟันธง! "พายุใหญ่ถล่มไทย-กทม.จมใต้บาดาล" สิงหา-ตุลาคม นี้
ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ท่านเคยเตือนเรื่องซูนามิมาแล้วยังจำกันได้หรือเปล่าครับ ระวังกันหน่อยก็ดี
" สมิทธ" ฟันธง "ส.ค.-ต.ค." พายุใหญ่ถล่มประเทศไทย ทำให้ กทม.จมบาดาล ระบบประปาพินาศ คนเมืองหลวงไม่มีน้ำใช้ จี้หน่วยงานรัฐเร่งหามาตรการรับมือโดยด่วน ขณะที่อดีตนายกสภาวิศวกรรมสถานฯ หวั่น "วัดพระแก้ว" เสียหายหากเกิดน้ำท่วมพระบรมมหาราชวัง
การออกมาแจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมตัวรับมือ กับภัยพิบัติครั้งใหญ่ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ครั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ในการเสวนาเรื่อง " แผนรับมือวิบัติภัยในมหานครกรุงเทพ" ซึ่งจัดโดยสถาบันพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร
การเสวนาครั้งนี้มีนาย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ศ.ดร.ปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหวและการสั่นสะเทือน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมเสวนา
ดร. สมิทธกล่าวว่า จากการศึกษาและติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติมาโดยตลอด พบว่าภัยพิบัติที่จะกระทบ กทม.และปริมณฑล มีอยู่ 2 ประเภท คือ ภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหว และภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขัง ซึ่งเกิดจากสภาวะโลกร้อน โดยภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหวเป็นภัยที่รุนแรงและมีผลกระทบต่อมนุษย์จำนวนมาก
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่มีพลังอยู่ 13 รอย และจากการศึกษาพบว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ รอยเลื่อนทั้งหมดเกิดรอยร้าวเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน ซึ่งการเกิดรอยร้าวดังกล่าวทำให้อาคารที่โครงสร้างไม่แข็งแรงใน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ มีโอกาสถล่มลงมาได้
ดร.สมิทธกล่าวต่อว่า ในพื้นที่ กทม.อาจได้รับผลกระทบโดยตรงจากรอยเลื่อน 2 รอย คือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี หากเกิดแผ่นดินไหวซ้ำขึ้นมาอีก เชื่อว่าจะส่งผลให้เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์แตก และทำให้น้ำปริมาณกว่า 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลทะลักเข้าสู่ จ.ราชบุรี จ.นครปฐม และ กทม.
" กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนดินเลน เมื่อได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวแล้ว ระยะสั่นสะเทือนจะขยายตัว 2-3 ริกเตอร์ ทำให้อาคารที่สูงไม่เกิน 6 ชั้น อาจแตกร้าวและพังทลายลงมา ส่วนอาคารสูงไม่น่าเป็นห่วง เพราะวิศวกรได้ออกแบบอาคารไว้รองรับอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยไม่มีความพร้อมในการรับมือกับแผ่นดินไหว โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงอาจทำให้เกิดความเสียหายมาก" ดร.สมิทธกล่าว
ผู้อำนวยการศูนย์เตือน ภัยพิบัติแห่งชาติกล่าวว่า ภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขัง เนื่องจากสภาวะโลกร้อนขึ้นนั้น จากสถิติไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าพายุที่เกิดในมหาสมุทรอินเดียจะมีแรงลมสูงมาก ถึงขนาดเป็นไซโคลน
แต่ตอนนี้เกิดขึ้นแล้วคือพายุไซโคลนนาร์กีส ซึ่งมีความเร็วลมสูงถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อขึ้นฝั่งในลุ่มน้ำอิระวดีในพม่า แรงลมสูงสุดถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความรุนแรงถึงระดับ 4
" ผมขอทำนายว่าในเดือน สิงหาคมถึงเดือนตุลาคมนี้ จะมีพายุขนาดใหญ่พัดถล่มประเทศไทย ทางด้านอ่าวไทย ไล่ตั้งแต่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.เพชรบุรี เข้ามา ซึ่งอาจทำให้เกิดปรากฏการณ์สตรอม เสิร์ช ( Strom Search) หรือน้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น
ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะทำให้น้ำ ทะเลไหลเข้ามาถึงบริเวณปากอ่าวเจ้าพระยา และเข้าท่วมพื้นที่ กทม. โดยกว่าจะไหลย้อนกลับสู่ทะเลต้องใช้เวลานานกว่า 2-3 สัปดาห์ และหากท่วมเหนือคลองประปา จะทำให้ประชาชนไม่มีน้ำในการอุปโภคบริโภค" ดร.สมิทธกล่าว
ด้าน นาย ต่อตระกูลกล่าวว่า มีความเป็นห่วงว่าหากเกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นจริงจะทำให้อาคารและสิ่งปลูกสร้าง ที่สำคัญหลายแห่งเสียหายโดยเฉพาะวัดพระแก้ว ซึ่งก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ไม่ได้มีการฝังเสาลงดิน หากเกิดน้ำท่วมในพื้นที่พระบรมมหาราชวังก็จะทำให้เสื่อมความแข็งแรงลงอย่าง รวดเร็ว
หลังการเสวนา "คม ชัด ลึก" ได้สอบถามไปยัง ดร.วัฒนา กันบัว ผู้อำนวยการฝ่ายอุตุนิยมวิทยาทะเล กรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดพายุใหญ่พัดถล่มประเทศไทยตามที่ ดร.สมิทธกล่าวในการเสวนา ดร.วัฒนาระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม
อาจจะเกิด พายุใหญ่ถล่มประเทศไทย เพราะช่วงดังกล่าวเป็นช่วงฤดูฝน อยู่ระหว่างช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้าประเทศไทย จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าช่วงดังกล่าวมีพายุพัดถล่มประเทศไทยมาแล้วหลายครั้ง อย่างเช่น พายุไต้ฝุ่นเกย์ พายุไต้ฝุ่นลินดา ที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนก็เกิดขึ้นในช่วงนี้
ดร. วัฒนากล่าวต่อว่า สภาวะโลกร้อนอาจส่งผลให้ความรุนแรงของพายุเพิ่มมากขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า หากพายุพัดเข้าสู่พื้นที่ที่เป็นเมืองก็อาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะหากพายุเคลื่อนเข้าประเทศไทยทางฝั่งภาคตะวันออกจะทำให้เกิดผลกระทบ ต่อพื้นที่ กทม.โดยตรง ซึ่งมีความเป็นห่วงว่า
หากมีพายุ พัดเข้าบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาจะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง ให้แก่ กทม. เนื่องจากขณะนี้แม้จะมีการสร้างเขื่อนกั้นริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาในหลายจุด แต่การสร้างเขื่อนที่ผ่านมาทำเพื่อรองรับปัญหาน้ำท่วมที่เกิดจากน้ำเหนือ ไหลหลาก
ไม่ได้มีไว้รองรับพายุที่ พัดเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะนี้บริเวณปากแม่น้ำยังไม่มีการก่อสร้างเขื่อน หากเกิดพายุพัดกระหน่ำจริง เขื่อนที่มีอยู่ก็ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมได้
ดร.วัฒนา กล่าวด้วยว่า มีความเป็นห่วงว่าหากช่วงเวลาที่เกิดพายุตรงกับช่วงที่ระดับน้ำทะเลขึ้นสูง สุดจะยิ่งทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรง เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวอาจทำให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์พัดกระหน่ำบริเวณชายฝั่ง
หากอาคารบ้านเรือนตามแนว ชายฝั่งไม่แข็งแรงก็จะสร้างความเสียหายร้ายแรงทั้ง ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยามีการติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมความพร้อมไว้ด้วย โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอพยพผู้ประสบภัย เพราะขณะเกิดเหตุภัยพิบัติหากมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยได้รวด เร็ว ความเสียหายต่อชีวิตของประชาชนก็จะลดน้อยลง
" สมิทธ" ฟันธง "ส.ค.-ต.ค." พายุใหญ่ถล่มประเทศไทย ทำให้ กทม.จมบาดาล ระบบประปาพินาศ คนเมืองหลวงไม่มีน้ำใช้ จี้หน่วยงานรัฐเร่งหามาตรการรับมือโดยด่วน ขณะที่อดีตนายกสภาวิศวกรรมสถานฯ หวั่น "วัดพระแก้ว" เสียหายหากเกิดน้ำท่วมพระบรมมหาราชวัง
การออกมาแจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมตัวรับมือ กับภัยพิบัติครั้งใหญ่ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ครั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ในการเสวนาเรื่อง " แผนรับมือวิบัติภัยในมหานครกรุงเทพ" ซึ่งจัดโดยสถาบันพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร
การเสวนาครั้งนี้มีนาย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ศ.ดร.ปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหวและการสั่นสะเทือน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมเสวนา
ดร. สมิทธกล่าวว่า จากการศึกษาและติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติมาโดยตลอด พบว่าภัยพิบัติที่จะกระทบ กทม.และปริมณฑล มีอยู่ 2 ประเภท คือ ภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหว และภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขัง ซึ่งเกิดจากสภาวะโลกร้อน โดยภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหวเป็นภัยที่รุนแรงและมีผลกระทบต่อมนุษย์จำนวนมาก
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่มีพลังอยู่ 13 รอย และจากการศึกษาพบว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ รอยเลื่อนทั้งหมดเกิดรอยร้าวเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน ซึ่งการเกิดรอยร้าวดังกล่าวทำให้อาคารที่โครงสร้างไม่แข็งแรงใน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ มีโอกาสถล่มลงมาได้
ดร.สมิทธกล่าวต่อว่า ในพื้นที่ กทม.อาจได้รับผลกระทบโดยตรงจากรอยเลื่อน 2 รอย คือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี หากเกิดแผ่นดินไหวซ้ำขึ้นมาอีก เชื่อว่าจะส่งผลให้เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์แตก และทำให้น้ำปริมาณกว่า 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลทะลักเข้าสู่ จ.ราชบุรี จ.นครปฐม และ กทม.
" กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนดินเลน เมื่อได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวแล้ว ระยะสั่นสะเทือนจะขยายตัว 2-3 ริกเตอร์ ทำให้อาคารที่สูงไม่เกิน 6 ชั้น อาจแตกร้าวและพังทลายลงมา ส่วนอาคารสูงไม่น่าเป็นห่วง เพราะวิศวกรได้ออกแบบอาคารไว้รองรับอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยไม่มีความพร้อมในการรับมือกับแผ่นดินไหว โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงอาจทำให้เกิดความเสียหายมาก" ดร.สมิทธกล่าว
ผู้อำนวยการศูนย์เตือน ภัยพิบัติแห่งชาติกล่าวว่า ภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขัง เนื่องจากสภาวะโลกร้อนขึ้นนั้น จากสถิติไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าพายุที่เกิดในมหาสมุทรอินเดียจะมีแรงลมสูงมาก ถึงขนาดเป็นไซโคลน
แต่ตอนนี้เกิดขึ้นแล้วคือพายุไซโคลนนาร์กีส ซึ่งมีความเร็วลมสูงถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อขึ้นฝั่งในลุ่มน้ำอิระวดีในพม่า แรงลมสูงสุดถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความรุนแรงถึงระดับ 4
" ผมขอทำนายว่าในเดือน สิงหาคมถึงเดือนตุลาคมนี้ จะมีพายุขนาดใหญ่พัดถล่มประเทศไทย ทางด้านอ่าวไทย ไล่ตั้งแต่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.เพชรบุรี เข้ามา ซึ่งอาจทำให้เกิดปรากฏการณ์สตรอม เสิร์ช ( Strom Search) หรือน้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น
ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะทำให้น้ำ ทะเลไหลเข้ามาถึงบริเวณปากอ่าวเจ้าพระยา และเข้าท่วมพื้นที่ กทม. โดยกว่าจะไหลย้อนกลับสู่ทะเลต้องใช้เวลานานกว่า 2-3 สัปดาห์ และหากท่วมเหนือคลองประปา จะทำให้ประชาชนไม่มีน้ำในการอุปโภคบริโภค" ดร.สมิทธกล่าว
ด้าน นาย ต่อตระกูลกล่าวว่า มีความเป็นห่วงว่าหากเกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นจริงจะทำให้อาคารและสิ่งปลูกสร้าง ที่สำคัญหลายแห่งเสียหายโดยเฉพาะวัดพระแก้ว ซึ่งก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ไม่ได้มีการฝังเสาลงดิน หากเกิดน้ำท่วมในพื้นที่พระบรมมหาราชวังก็จะทำให้เสื่อมความแข็งแรงลงอย่าง รวดเร็ว
หลังการเสวนา "คม ชัด ลึก" ได้สอบถามไปยัง ดร.วัฒนา กันบัว ผู้อำนวยการฝ่ายอุตุนิยมวิทยาทะเล กรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดพายุใหญ่พัดถล่มประเทศไทยตามที่ ดร.สมิทธกล่าวในการเสวนา ดร.วัฒนาระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม
อาจจะเกิด พายุใหญ่ถล่มประเทศไทย เพราะช่วงดังกล่าวเป็นช่วงฤดูฝน อยู่ระหว่างช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้าประเทศไทย จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าช่วงดังกล่าวมีพายุพัดถล่มประเทศไทยมาแล้วหลายครั้ง อย่างเช่น พายุไต้ฝุ่นเกย์ พายุไต้ฝุ่นลินดา ที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนก็เกิดขึ้นในช่วงนี้
ดร. วัฒนากล่าวต่อว่า สภาวะโลกร้อนอาจส่งผลให้ความรุนแรงของพายุเพิ่มมากขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า หากพายุพัดเข้าสู่พื้นที่ที่เป็นเมืองก็อาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะหากพายุเคลื่อนเข้าประเทศไทยทางฝั่งภาคตะวันออกจะทำให้เกิดผลกระทบ ต่อพื้นที่ กทม.โดยตรง ซึ่งมีความเป็นห่วงว่า
หากมีพายุ พัดเข้าบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาจะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง ให้แก่ กทม. เนื่องจากขณะนี้แม้จะมีการสร้างเขื่อนกั้นริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาในหลายจุด แต่การสร้างเขื่อนที่ผ่านมาทำเพื่อรองรับปัญหาน้ำท่วมที่เกิดจากน้ำเหนือ ไหลหลาก
ไม่ได้มีไว้รองรับพายุที่ พัดเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะนี้บริเวณปากแม่น้ำยังไม่มีการก่อสร้างเขื่อน หากเกิดพายุพัดกระหน่ำจริง เขื่อนที่มีอยู่ก็ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมได้
ดร.วัฒนา กล่าวด้วยว่า มีความเป็นห่วงว่าหากช่วงเวลาที่เกิดพายุตรงกับช่วงที่ระดับน้ำทะเลขึ้นสูง สุดจะยิ่งทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรง เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวอาจทำให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์พัดกระหน่ำบริเวณชายฝั่ง
หากอาคารบ้านเรือนตามแนว ชายฝั่งไม่แข็งแรงก็จะสร้างความเสียหายร้ายแรงทั้ง ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยามีการติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมความพร้อมไว้ด้วย โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอพยพผู้ประสบภัย เพราะขณะเกิดเหตุภัยพิบัติหากมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยได้รวด เร็ว ความเสียหายต่อชีวิตของประชาชนก็จะลดน้อยลง
สรุปรางวัลอิกโนเบล 2010
สรุปรางวัลอิกโนเบล 2010 ในสาขาต่างๆ พร้อมงานวิจัยจริงๆ ของพวกเขา ใครสนใจค้นคว้าเพิ่มเติมไปหาอ่านกันได้ตามที่เราได้แนบรายงานอ้างอิงไว้ใน แต่ละสาขา
สาขาวิศวกรรม : คารินา เอซเวโด-ไวท์เฮาส์, อังเนส โรชา-กอสเซลิน และไดแอน เกนดรอน ทั้ง 3 ร่วมกันพัฒนาวิธีการเก็บน้ำมูกวาฬ โดยควบคุมผ่านเฮลิคอปเตอร์
REFERENCE: "A Novel Non-Invasive Tool for Disease Surveillance of Free-Ranging Whales and Its Relevance to Conservation Programs," Karina Acevedo-Whitehouse, Agnes Rocha-Gosselin and Diane Gendron, Animal Conservation, vol. 13, no. 2, April 2010, pp. 217-25.
สาขาการแพทย์ : ไซมอน รีตเวล์ด และ อิลยา ฟาน บีสต์ ที่สังเกตอาการของผู้ป่วยหอบหืดที่เล่นรถไฟเหาะตีลังกา
REFERENCE: "Rollercoaster Asthma: When Positive Emotional Stress Interferes with Dyspnea Perception," Simon Rietveld and Ilja van Beest, Behaviour Research and Therapy, vol. 45, 2006, pp. 977-87.
สาขาการวางแผนคมนาคม : จากญี่ปุ่นคือ โตชิยูกิ นาคากากิ, อัตซูชิ เทโร, ไซอิจิ ทากากิ, เท็ตสึ ไซกูซะ, เคนทาโร อิโตะ, เคนจิ ยูมิกิ, เรียว โคบายาชิ และจากสหรราชอาณาจักร คือแดน เบบเบอร์, มาร์ก ฟริเกอร์ พวกเขาใช้ราเมือก (slime mold) พิจารณาความเหมาะสมในการวางเส้นทางรางรถไฟ
REFERENCE: "Rules for Biologically Inspired Adaptive Network Design," Atsushi Tero, Seiji Takagi, Tetsu Saigusa, Kentaro Ito, Dan P. Bebber, Mark D. Fricker, Kenji Yumiki, Ryo Kobayashi, Toshiyuki Nakagaki, Science, Vol. 327. no. 5964, January 22, 2010, pp. 439-42.
(** ทีมวิจัยคณะใหญ่ชุดนี้ เคยได้รับอิกโนเบลไปแล้วครั้งหนึ่งในปี 2008 โดยพวกเขาสามารถสาธิตให้เห็นว่า "ราเมือก" ที่พวกเขาศึกษาอย่างจริงจังนั้น สามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้)
สาขาฟิสิกส์ : ไลแอนเน่ พาร์กิน, เชียอิลา วิลเลียมส์ และแพทริเซีย เพรียสต์ ทั้ง 3 นำเสนอวิธีการที่จะไม่ลื่นหกล้มบนแผ่นน้ำแข็งในฤดูหนาว ก็เพียงแค่ใส่ถุงเท้าหุ้มรองเท้าเอาไว้ก็สิ้นเรื่อง !!
REFERENCE: "Preventing Winter Falls: A Randomised Controlled Trial of a Novel Intervention," Lianne Parkin, Sheila Williams, and Patricia Priest, New Zealand Medical Journal. vol. 122, no, 1298, July 3, 2009, pp. 31-8.
สาขาสันติภาพ : ริชาร์ด สตีเฟนส์, จอห์น อัตคินส์ และแอนดริว คิงส์ตัน พวกเขาค้นพบว่า ด่าบ้างระบายอารมณ์บ้าง จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวด
(**คำเตือนจากเรา : ระวังอย่าไปด่าคนอื่นเข้าจะกลายเป็นทำลายสันติภาพแทน)
REFERENCE: "Swearing as a Response to Pain," Richard Stephens, John Atkins, and Andrew Kingston, Neuroreport, vol. 20 , no. 12, 2009, pp. 1056-60.
สาขาสาธารณสุข : มานูเอล บาร์ไบโต, ชาร์ลส์ แมธิวส์ และลาร์รี เทย์เลอร์ พวกเขาพบว่า พวกจุลชีพในห้องแล็บต่างปีนป่ายเข้าไปซุกซ่อนตามหนวดของนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้นนักวิทย์ที่ไว้หนวดระวังอันตรายจากสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เหล่านี้ด้วย
REFERENCE: "Microbiological Laboratory Hazard of Bearded Men," Manuel S. Barbeito, Charles T. Mathews, and Larry A. Taylor, Applied Microbiology, vol. 15, no. 4, July 1967, pp. 899-906.
สาขาเศรษฐศาสตร์ : บรรดา ผู้บริหารและผู้อำนวยการของโกล์ดแมนแซคส์, เอไอจี, เลห์แมน บราเธอร์ส, แบร์ สเติร์นส์, เมอร์ริลล์ ลินช์, และ แม็กเนตาร์ ในฐานะที่สร้างและผลักดันวิธีการลงทุนแนวใหม่ ซึ่งเป็นแนวทางที่ทำให้ภาคการเงินเติบโตถึงขีดสุด และตกต่ำลงอย่างที่สุด
REFERENCE: ค้นหาข่าวย้อนหลังอ่านกันได้เลย มีอยู่มากมายทั่วโลก
สาขาเคมี : เอริก อดัมส์, สก็อตต์ โซโคโลฟสกี และสตีเฟน มาซูทานี ที่พิสูจน์ค้านแนวคิดที่ว่า น้ำกับน้ำมันเข้ากันไม่ได้ งานวิจัยชิ้นนี้สนับสนุนโดยบีพี
REFERENCE: "Review of Deep Oil Spill Modeling Activity Supported by the Deep Spill JIP and Offshore Operator’s Committee. Final Report," Eric Adams and Scott Socolofsky, 2005.
สาขาการจัดการ : อเลซซานโดร พูลชิโน, อันเดรีย ราพิซาร์ดา และเคซาเร กาโรฟาโล พวกเขาแสดงให้เห็นในทางคณิตศาสตร์ว่า องค์กรจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากเลื่อนขั้นพนักงานโดยการสุ่ม (หรือตามใจเจ้านาย)
REFERENCE: “The Peter Principle Revisited: A Computational Study,” Alessandro Pluchino, Andrea Rapisarda, and Cesare Garofalo, Physica A, vol. 389, no. 3, February 2010, pp. 467-72.
สาขาชีววิทยา : ทีมวิจัยจากจีน ลิเปียว เจี้ยง, มิน ตัง, กว่างเจี้ยน จู, เจี้ยนผิง อี้, ตี้อู๋ ฮอง, ซานอี เจียว, ซูอี เจี้ยง และการเร็ธ โจนส์ ที่พวกเขาสามารถบันทึกภาพยนตร์สารคดีทางวิทยาศาสตร์ของค้างคาวกินผลไม้ขณะทำออรัลเซ็กซ์ (ดูคลิปค้างคาว http://www.youtube.com/watch?v=1ERJ_O1Ze40)
REFERENCE: "Fellatio by Fruit Bats Prolongs Copulation Time," Min Tan, Gareth Jones, Guangjian Zhu, Jianping Ye, Tiyu Hong, Shanyi Zhou, Shuyi Zhang and Libiao Zhang, PLoS ONE, vol. 4, no. 10, e7595.
สาขาวิศวกรรม : คารินา เอซเวโด-ไวท์เฮาส์, อังเนส โรชา-กอสเซลิน และไดแอน เกนดรอน ทั้ง 3 ร่วมกันพัฒนาวิธีการเก็บน้ำมูกวาฬ โดยควบคุมผ่านเฮลิคอปเตอร์
REFERENCE: "A Novel Non-Invasive Tool for Disease Surveillance of Free-Ranging Whales and Its Relevance to Conservation Programs," Karina Acevedo-Whitehouse, Agnes Rocha-Gosselin and Diane Gendron, Animal Conservation, vol. 13, no. 2, April 2010, pp. 217-25.
สาขาการแพทย์ : ไซมอน รีตเวล์ด และ อิลยา ฟาน บีสต์ ที่สังเกตอาการของผู้ป่วยหอบหืดที่เล่นรถไฟเหาะตีลังกา
REFERENCE: "Rollercoaster Asthma: When Positive Emotional Stress Interferes with Dyspnea Perception," Simon Rietveld and Ilja van Beest, Behaviour Research and Therapy, vol. 45, 2006, pp. 977-87.
สาขาการวางแผนคมนาคม : จากญี่ปุ่นคือ โตชิยูกิ นาคากากิ, อัตซูชิ เทโร, ไซอิจิ ทากากิ, เท็ตสึ ไซกูซะ, เคนทาโร อิโตะ, เคนจิ ยูมิกิ, เรียว โคบายาชิ และจากสหรราชอาณาจักร คือแดน เบบเบอร์, มาร์ก ฟริเกอร์ พวกเขาใช้ราเมือก (slime mold) พิจารณาความเหมาะสมในการวางเส้นทางรางรถไฟ
REFERENCE: "Rules for Biologically Inspired Adaptive Network Design," Atsushi Tero, Seiji Takagi, Tetsu Saigusa, Kentaro Ito, Dan P. Bebber, Mark D. Fricker, Kenji Yumiki, Ryo Kobayashi, Toshiyuki Nakagaki, Science, Vol. 327. no. 5964, January 22, 2010, pp. 439-42.
(** ทีมวิจัยคณะใหญ่ชุดนี้ เคยได้รับอิกโนเบลไปแล้วครั้งหนึ่งในปี 2008 โดยพวกเขาสามารถสาธิตให้เห็นว่า "ราเมือก" ที่พวกเขาศึกษาอย่างจริงจังนั้น สามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้)
สาขาฟิสิกส์ : ไลแอนเน่ พาร์กิน, เชียอิลา วิลเลียมส์ และแพทริเซีย เพรียสต์ ทั้ง 3 นำเสนอวิธีการที่จะไม่ลื่นหกล้มบนแผ่นน้ำแข็งในฤดูหนาว ก็เพียงแค่ใส่ถุงเท้าหุ้มรองเท้าเอาไว้ก็สิ้นเรื่อง !!
REFERENCE: "Preventing Winter Falls: A Randomised Controlled Trial of a Novel Intervention," Lianne Parkin, Sheila Williams, and Patricia Priest, New Zealand Medical Journal. vol. 122, no, 1298, July 3, 2009, pp. 31-8.
สาขาสันติภาพ : ริชาร์ด สตีเฟนส์, จอห์น อัตคินส์ และแอนดริว คิงส์ตัน พวกเขาค้นพบว่า ด่าบ้างระบายอารมณ์บ้าง จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวด
(**คำเตือนจากเรา : ระวังอย่าไปด่าคนอื่นเข้าจะกลายเป็นทำลายสันติภาพแทน)
REFERENCE: "Swearing as a Response to Pain," Richard Stephens, John Atkins, and Andrew Kingston, Neuroreport, vol. 20 , no. 12, 2009, pp. 1056-60.
สาขาสาธารณสุข : มานูเอล บาร์ไบโต, ชาร์ลส์ แมธิวส์ และลาร์รี เทย์เลอร์ พวกเขาพบว่า พวกจุลชีพในห้องแล็บต่างปีนป่ายเข้าไปซุกซ่อนตามหนวดของนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้นนักวิทย์ที่ไว้หนวดระวังอันตรายจากสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เหล่านี้ด้วย
REFERENCE: "Microbiological Laboratory Hazard of Bearded Men," Manuel S. Barbeito, Charles T. Mathews, and Larry A. Taylor, Applied Microbiology, vol. 15, no. 4, July 1967, pp. 899-906.
สาขาเศรษฐศาสตร์ : บรรดา ผู้บริหารและผู้อำนวยการของโกล์ดแมนแซคส์, เอไอจี, เลห์แมน บราเธอร์ส, แบร์ สเติร์นส์, เมอร์ริลล์ ลินช์, และ แม็กเนตาร์ ในฐานะที่สร้างและผลักดันวิธีการลงทุนแนวใหม่ ซึ่งเป็นแนวทางที่ทำให้ภาคการเงินเติบโตถึงขีดสุด และตกต่ำลงอย่างที่สุด
REFERENCE: ค้นหาข่าวย้อนหลังอ่านกันได้เลย มีอยู่มากมายทั่วโลก
สาขาเคมี : เอริก อดัมส์, สก็อตต์ โซโคโลฟสกี และสตีเฟน มาซูทานี ที่พิสูจน์ค้านแนวคิดที่ว่า น้ำกับน้ำมันเข้ากันไม่ได้ งานวิจัยชิ้นนี้สนับสนุนโดยบีพี
REFERENCE: "Review of Deep Oil Spill Modeling Activity Supported by the Deep Spill JIP and Offshore Operator’s Committee. Final Report," Eric Adams and Scott Socolofsky, 2005.
สาขาการจัดการ : อเลซซานโดร พูลชิโน, อันเดรีย ราพิซาร์ดา และเคซาเร กาโรฟาโล พวกเขาแสดงให้เห็นในทางคณิตศาสตร์ว่า องค์กรจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากเลื่อนขั้นพนักงานโดยการสุ่ม (หรือตามใจเจ้านาย)
REFERENCE: “The Peter Principle Revisited: A Computational Study,” Alessandro Pluchino, Andrea Rapisarda, and Cesare Garofalo, Physica A, vol. 389, no. 3, February 2010, pp. 467-72.
สาขาชีววิทยา : ทีมวิจัยจากจีน ลิเปียว เจี้ยง, มิน ตัง, กว่างเจี้ยน จู, เจี้ยนผิง อี้, ตี้อู๋ ฮอง, ซานอี เจียว, ซูอี เจี้ยง และการเร็ธ โจนส์ ที่พวกเขาสามารถบันทึกภาพยนตร์สารคดีทางวิทยาศาสตร์ของค้างคาวกินผลไม้ขณะทำออรัลเซ็กซ์ (ดูคลิปค้างคาว http://www.youtube.com/watch?v=1ERJ_O1Ze40)
REFERENCE: "Fellatio by Fruit Bats Prolongs Copulation Time," Min Tan, Gareth Jones, Guangjian Zhu, Jianping Ye, Tiyu Hong, Shanyi Zhou, Shuyi Zhang and Libiao Zhang, PLoS ONE, vol. 4, no. 10, e7595.
สมัครสมาชิก:
ความคิดเห็น (Atom)