วันอังคารที่ 16 พฤศจิกายน พ.ศ. 2553

ความรู้เกี่ยวกับโรคมะเร็ง และการป้องกันรักษา

หลังจากหลายปีที่พูดกันว่าการทำคีโมเป็นทางเลือกเดียวที่จะลอง และใช้ในการกำจัดโรคมะเร็ง
ในที่สุดโรงพยาบาลจอห์น ฮอพกินส์ก็เริ่มแนะนำถึงทางเลือกอื่นๆอีก

ข้อมูลล่าสุดเกี่ยวกับโรคมะเร็งจาก รพ.จอห์น ฮอพกินส์

1. ทุกๆคนมีเซลมะเร็งอยู่ในร่างกาย เซลมะเร็งเหล่านี้จะไม่ปรากฎด้วยวิธีการตรวจสอบตามมาตรฐาน จนกระทั่งมันขยายตัวเพิ่มขึ้นในระดับพันล้านเซล(1,000,000,000 เซล) เมื่อแพทย์บอกว่าไม่มีเซลมะเร็งในร่างกายผู้ป่วยโรคมะเร็งที่ได้รับการรักษาแล้ว มันหม ายถึงว่าระบบไม่สามารถตรวจสอบเซลมะเร็งได้เพราะว่าจำนวนของมันยังไม่มากพอ จนถึงระดับที่สามารถตรวจจับได้เท่านั้น

2. เซลมะเร็งเกิดขึ้นระหว่าง 6 ถึงมากกว่า 10 ครั้งในช่วงอายุของคนๆหนึ่ง

3. เมื่อระบบภูมิคุ้มกันของร่างกายแข็งแรงเพียงพอ เซลมะเร็งจะถูกทำลายและป้องกันไม่ให้เกิดการขยายตัวและกลายเป็นเนื้องอก

4. เมื่อใครก็ตามเป็นมะเร็ง มันกำลังบอกว่าคนๆนั้นมีความบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ ซึ่งอาจเกิดจากยีน สิ่งแวดล้อม อาหารและปัจจัยอื่นๆในการดำรงชีวิต

5. เพื่อเอาชนะภาวะบกพร่องหลายประการเกี่ยวกับโภชนาการ การเปลี่ยนแปลงประเภทของอาหาร รวมทั้งสารอาหารบางอย่างจะช่วยให้ภูมิคุ้มกันแข็งแรงขึ้น

6. การทำคีโมคือการให้สารเคมีที่มีความเป็นพิษกับเซลมะเร็งที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว แต่ขณะเดียวกัน มันก็จะทำลายเซลที่ดีที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็วในไขกระดูก ทำลายระบบทางเดินอาหาร ฯลฯ และเป็นสาเหตุทำให้อวัยวะบางส่วนถูกทำลาย เช่น ตับ ไต หัวใจ ปอด ฯลฯ

7. การฉายรังสีแม้ว่าจะเป็นการทำลายเซลมะเร็ง แต่ก็ทำให้เกิดอาการไหม้ เป็นแผลเป็น และทำลายเซลที่ดี เนื้อเยื่อ และอวัยวะ

8. การบำบัดโดยคีโม และการฉายรังสีมักจะช่วยลดขนาดของเนื้องอกได้ในช่วงแรกๆ อย่างไรก็ตามถ้าทำไปนานๆพบว่ามักไม่ส่งผลต่อการทำลายเซลเนื้องอก

9. เมื่อร่างกายได้รับสารพิษจากการทำคีโมหรือการฉายรังสีมากเกินไป ระบบภูมิคุ้มกันอาจปรับตัวเข้ากันได้หรือไม่ก็อาจถูกทำลายลง ดังนั้นคนๆนั้นจึงอาจตกอยู่ในอันตรายจากการติดเชื้อหลายชนิดและทำให้โรคมีความซับซ้อนยิ่งขึ้น

10. การทำคีโมและการฉายรังสีอาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกลายพันธุ์ ดื้อยา และยากต่อการทำลาย การผ่าตัดก็อาจเป็นสาเหตุทำให้เซลมะเร็งกระจายไปทั่วร่างกาย

11. วิธีที่ดีที่สุดในการทำสงครามกับมะเร็ง คือการไม่ให้เซลมะเร็งได้รับอาหารเพื่อนำไปใช้ในการขยายตัว

อะไรคืออาหารที่ป้อนให้กับเซลมะเร็ง

a. น้ำตาลคืออาหารของมะเร็ง การตัดน้ำตาลคือการตัดแหล่งอาหารสำคัญที่จ่ายให้กับเซลมะเร็ง สารทดแทนน้ำตาลอย่างเช่น "" นิวตร้าสวีต "" "" อีควล "" "" สปูนฟูล "" ฯลฯ ล้วนทำมาจากสารให้ความหวานซึ่งเป็นอันตราย ส ารทดแทนซึ่งเป็นกลางที่ดีกว่าคือน้ำผึ้งมานูคา (จากนิวซีแลนด์) หรือน้ำอ้อย แต่ในปริมาณน้อยๆเท่านั้น (คนที่เป็นเบาหวานอยู่ด้วย ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษ) เกลือสำเร็จรูปก็ใช้สารเคมีในการฟอกขาว ควรหันไปเลือกใช้ "" แบรก อมิโน "" หรือเกลือทะเลแทน (คนที่เป็นโรคไตและความดันโลหิตสูงอยู่ด้วย ก็ต้องระมัดระวังเป็นพิเศษเช่นเดียวกัน)

b. นมเป็นสาเหตุทำให้ร่างกายผลิตเมือก โดยเฉพาะในระบบทางเดินอาหาร เซลมะเร็งจะได้รับอาหารได้ดีในสภาวะที่มีเมือก การใช้นมถั่วเหลืองชนิดไม่หวานแทนนม จะทำให้เซลมะเร็งไม่ได้รับอาหาร

c. เซลมะเร็งเติบโตได้ดีใ นภาวะแวดล้อมที่เป็นกรด อาหารจำพวกเนื้อจะสร้างสภาวะกรดขึ้น ดังนั้นจึงควรหันไปรับประทานปลาจะดีที่สุด รองลงไปคือ รับประทานไก่แทนเนื้อและหมู ในเนื้ออาจมียาฆ่าเชื้อ ฮอร์โมนที่สร้างการเจริญเติบโตในสัตว์ และเชื้อปรสิตบางประเภทตกค้างอยู่ ซึ่งล้วนเป็นอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับคนที่เป็นมะเร็ง

d. อาหารที่ประกอบด้วยผักสด 80% และน้ำผลไม้ พืชจำพวกหัว เมล็ด ถั่วเปลือกแข็ง และผลไม้จำนวนเล็กน้อย จะช่วยทำให้ร่างกายมีสภาวะเป็นด่าง อาหารอีก 20% อาจได้มาจากการทำอาหารร่วมกับพืชจำพวกถั่ว น้ำผักสดจะให้เอ็นไซม์ซึ่งสามารถดูดซึมได้ง่ายและซึมซาบสู่ระดับเซลภายใน 15 นาที เพื่อบำรุงร่างกายและส่งเสริมการเจริญเติบโตของเซลที่ดี เพื่อให้ได้เอ็นไซม์ในการสร้างเซลที่ดี ให้พยายามดื่มน้ำผักสด ( ผักส่วนใหญ่รวมทั้งถั่วที่มีหน่อหรือต้นอ่อน) และรับประทานผักสดดิบ 2-3 ครั้งต่อวัน เอ็นไซม์จะถูกทำลายได้ง่ายที่อุณหภูมิ 140 องศา F ( ประมาณ 40 องศา C)

e. ให้หลีกเลี่ยงกาแฟ น้ำชา และช้อกโกแลต ซ ึ่งมีคาเฟอีนสูง ชาเขียวถือเป็นทางเลือกที่ดีและมีคุณสมบัติในการต้านมะเร็ง น้ำดื่มให้เลือกดื่มน้ำบริสุทธิ์ หรือที่ผ่านการกรอง เพื่อหลีกเลี่ยงท๊อกซินและโลหะหนักในน้ำประปา น้ำกลั่นมักมีสภาพเป็นกรด ให้หลีกเลี่ยง

12. โปรตีนจากเนื้อจะย่อยยาก และต้องการเอ็นไซม์หลายชนิดมาช่วยในการย่อย เนื้อสัตว์ที่ไม่สามารถย่อยได้ในระบบทางเดินอาหารจะเกิดการบูดเน่าและมีความเป็นพิษมากขึ้น

13. ผนังของเซลมะเร็งจะมีโปรตีนห่อหุ้มไว้ การงดหรือการรับประทานเนื้อสัตว์น้อยลง จะทำให้มีเอ็นไซม์เหลือมากพอมาใช้โจมตีกำแพงโปรตีนที่ห่อหุ้มเซลมะเร็ง และช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น

14. สารอาหารบางอย่างอาจช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกัน ( สาร IP6 [inositol hexaphosphate หรือ phytic acid], สาร Flor-essence, สาร Essiac, สารแอนตี้-อ๊อกซิแดนส์ , วิตามิน , เกลือแร่ , EFAs ฯลฯ) เพื่อช่วยให้เซลของร่างกายสามารถกำจัดเซลมะเร็งได้ดีขึ้น สารอาหารอื่นๆเช่น วิตามินอี เป็นที่ทราบกันดีว่าทำให้เกิดการตายลงของเซล หรือกำหนดระยะเวลาการตายของเซล ซึ่งเป็นกลไกธรรมชาติของร่างกายในการกำจัดเซลที่ถูกทำลาย ซึ่งไม่เ ป็นที่ต้องการ หรือไม่มีประโยชน์ออกไป

15. มะเร็งเป็นโรคที่สัมพันธ์กับจิตใจ ร่างกาย และจิตวิญญาณ การป้องกันเชิงรุกและการคิดในเชิงบวกจะช่วยให้เราสามารถอยู่รอดจากการทำสงครามกับมะเร็ง.... ความโกรธ การไม่รู้จักให้อภัย และความขมขื่นใจ จะทำให้ร่างกายเกิดความตึงเครียดและมีสภาวะเป็นกรดเพิ่มขึ้น ให้เรียนรู้ที่จะมีความรักและจิตวิญญาณแห่งการให้อภัย เรียนรู้ที่จะผ่อนคลายและมีความสุขกับชีวิต

16. เซลมะเร็งไม่สามารถเจริญเติบโตได้ในสภาวะที่มีอ๊อกซิเจนเป็นจำนวนมาก การออกกำลังกายทุกวัน และการหายใจลึกๆจะช่วยให้ร่างกายได้รับอ๊อกซิเจนเพิ่มขึ้นลงไปจนระดับเซล การบำบัดด้วยอ๊อกซิเจนถือเป็นวิธีการอีกอย่างที่ใช้ในการทำลายเซลมะเร็ง

ผู้ชายที่แสนดี

โดนใจมาก ...............






ชายคนหนึ่ง เดินออกจากผับ มีขอทานคนหนึ่งหน้าตามอมแมม ตามตัวสกปรกนั่งอยู่ข้างทาง

' พี่ขอเงินสัก 20 ซิผมยังไม่ กินข้าวเลย ' ขอทานเอ่ยปาก

ชายหนึ่งหยุด กึ่ก........ แล้วบอกว่า

' เอาอย่างนี้ ไปกินเหล้ากับพี่ พี่เลี้ยงเอง '

ขอทานบอก ' ไม่เป็นไร ครับพี่ ผมไม่กินเหล้า '

ชายหนุ่มเลย บอก ' นั้นไปเล่น ม้ากับพี่ไหม พี่ออกทุนให้ '

ขอทานก็ยัง ปฎิเสธ ' ผมไม่เล่นการ พนันคับ '

ชายคนนี้เลย ถามต่อ ' เอาอย่างนี้ นั้น พี่พาไปลงอ่างดีกว่า '

ขอทานก็ตอบ อีกว่า ' ผมไม่เที่ยว ผู้หญิงด้วยคับ '

ชายหนุ่มเลย ยิ้มนิดๆๆ เหมือนถูกใจแล้วถามว่า

' เมื่อกี้น้อง ขอตังค์ พี่เท่าไรนะ'

ขอทานบอก : 20 ครับพี่

ชายหนุ่มเลย ก้มหน้าไปกระซิบว่า : เอางี้แล้วกันพี่ให้น้อง 200 เลย

ไปที่บ้านกับ พี่หน่อยเด้อ !!!

ขอทานทำหน้า งงงง : ทำไมเหรอคับ พี่

ชายหนุ่มควัก ตังค์ แล้วพูดว่า : ไปให้เมียพี่มันดู หน่อยว่ะ ว่าคนที่ไม่กินเหล้า ไม่เล่นการพนัน ไม่เที่ยวผู้หญิงนะ สภาพมันเป็นอย่างไร.

.
ฉะนั้น เราควรมากินเหล้ากันเถอะ

โรงพยาบาลธรรมชาติ (คัดลอกมา)

หัวจรดเท้ารักษาเองได้ก่อนไปหาหมอ




๑. ไขมันในเลือดสูง แทนที่จะหายามากินให้ปวดหัว ตับพังก็หากระเทียมสดมากินสักวันละ ๑๐ กลีบกับกินหอมหัวใหญ่สดวันละครึ่งหัว
๒. ปวดหัว ให้หาผักคะน้าหรือปวยเล้ง (แมกนีเซียม) กินวันละ ๕ ขีดและกินปลาทูอีกวันละ ๒ ตัว (น้ำมันปลาลดการอักเสบได้) หรือจะชงโกโก้กินหน่อยก็ช่วยได้ค่ะ
๓. เป็นหวัด ไอ จามบ่อย ให้หมั่นแปรงลิ้นและกินกระเทียม, หอม, พริกให้มากเข้าไว้
๔. ภูมิแพ้ แค่กินฝรั่งวันละ๕ ชิ้นกับเมล็ดฟักทองวันละ ๑ กำมือ (สังกะสี)
๕. แพ้ฝุ่นละออง ไรฝุ่น หาโยเกิร์ตแบบรสธรรมชาติและนมเปรี้ยวไม่หวานจัดมากิน
๖.โรคหืดหอบ ไอเรื้อรัง กินต้มยำไก่, กินหัวหอมใหญ่, หอมแดง, ต้นหอมและเอาหอมซุกไว้ใต้หมอน
๗. นอนไม่หลับ ตักน้ำผึ้งกินก่อนนอนสักวันละ ๒ ช้อนโต๊ะ ถ้าหาน้ำผึ้งไม่ได้ใช้น้ำตาลทราย ๒ ช้อนโต๊ะแทน ถ้าอยากให้หลับสบายเพิ่มเติมขี้เหล็กและมะรุมเข้าไปหน่อย
๘. ไขข้ออักเสบ หาปลาเนื้อมันกินวันละ ๒ ขีด เช่นปลาทู, ปลาสวาย, ปลาแซลม่อน, ปลาซาร์ดีน, ปลาทูน่าหรือแม้แต่ปลากระป๋อง
๙. กระเพาะปัสสาวะอักเสบบ่อย ให้กินน้ำกระเจี๊ยบไม่หวานจัดวันละ ๓ มื้อ หรือน้ำแครนเบอรี่ของฝรั่งในปริมาณเท่ากัน ( เปรี้ยวจัดมาก)
๑๐.ท้องอืด แก๊สมาก ให้กินกล้วยหักมุกปิ้งหรือขิงบ่อย ๆ
๑๑.ท้องผูก ชงน้ำผึ้งดื่มวันละ ๓ ช้อนโต๊ะและให้กินน้ำมะขามต้มติดเนื้อมาก เช้า เย็น
๑๒.โรคกระเพาะอาหาร หากล้วยหักมุกปิ้งกิน, กินกล้วยหรือกินผักกระ หล่ำปลีให้มาก
๑๓.เวียนหัว คลื่นไส้ง่าย ให้หาอาหารทำจากขิงรับประทาน เช่น ปลาผัดขิง ไก่ผัดขิง, น้ำขิง, ชาขิงหรือเต้าฮวย
๑๔.วัยทอง วูบวาบ อารมณ์ปรวน ให้กินปลาทูน่าให้มากและกินเต้าหู้เหลืองวันละ ๑ แผ่น ถ้ากินเต้าหู้แล้วเบื่อให้สลับกับถั่วลิสงวันละ ๑ กำมือก็ได้
๑๕.หงุดหงิดง่าย ให้กินอาหารร่าเริง คือ ข้าวเหนียวดำ ข้าวโพด กลอย กล้วยหอมและปลาทูน่า
๑๖.กระดูกพรุน ให้กินงาดำวันละ ๔ ช้อนโต๊ะ (ได้แคลเซียมเท่ากับเม็ดใหญ่) มะม่วงจิ้มกะปิและสับปะรดซึ่งมีธาตุสมานกระดูดอยู่มาก ( แมงกานีส)
๑๗.ความจำไม่ดี ให้กินปลาทูวันละ ๒ ขีด หอยแครงและหอยนางรมซึ่งมีธาตุสังกะสีช่วยสมองได้
๑๘.มะเร็งเต้านม ให้กินบร็อคโคลีหรือคะน้าวันละ ๕ ขีด
๑๙.มะเร็งปอดทางเดินหายใจ ให้กินเสาวรส ฝรั่ง ส้ม มะนาว มะขามป้อม มะละกอ มะม่วง ให้มาก เพราะวิตามินซีช่วยสมานหลอดเลือดในปอดได้ดี แต่ต้องระวังวิตามินเอโดยเฉพาะผู่ที่ยังสูบบุหรี่อยู่
๒๐.ท้องเสีย ลำไส้แปรปรวน กินแอปเปิ้ลเขียววันละ ๑-๒ ผล หรือน้ำแอปเปิ้ลเขียวปั่นทั้งกาก จะเป็นการล้างพิษในตัวด้วย
๒๑.เจ็บอก โรคหัวใจ หลอดเลือดตีบ กินปลาทะเล น้ำมันมะกอกเอ็กซ์ตร้าเวอร์จิน ผลอโวคาโดเพราะเหล่านี้มีไขมันดีไปช่วยขับตะกรันน้ำมันเก่าออก ถ้าชอบดื่มชาให้หาชาเขียวสดมาชงดื่มเองวันละถ้วย
๒๒.ความดันสูง ต้องตัดบุหรี่และอาหารเค็ม ลองหาข้าวโอ๊ตไม่ขัดสีมากินและผักขึ้นฉ่ายสดหรือปั่นก็ได้ จะช่วยคุมความดันให้ดีขึ้น
๒๓.เบาหวานถามหา ให้เลี่ยงแป้งกับน้ำตาลและกินผักเขียวจัดอย่างคะน้า บร็อคโคลี ผักโขมให้มาก ถ้าอยากหวานให้กินส้มโอและฝรั่งเพราะมีน้ำตาลอยู่น้อยมาก

วันอาทิตย์ที่ 10 ตุลาคม พ.ศ. 2553

ใครเป็นพ่อเป็นแม่เป็นลูกหลานเป็นสมุนของเขาคงภูมิใจน่าดูกับคนๆนี้

เขาได้รับตำแหน่งอันทรงเกลียดนี้ด้วยความสามารถล้วนๆ ไม่ใช่บังเอิญ

สื่อนอกยก “ทักษิณ” ติด 1 ใน 5 “อดีตผู้นำที่เลว”
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 10 ตุลาคม 2553 18:29 น.

“ฟอรีน โพลิซี” สื่อนอกในเครือวอชิงตันโพสต์ ตีพิมพ์บทความ “อดีตผู้นำที่เลว” ยก “ทักษิณ” เทียบชั้นอดีตผู้นำเยอรมนี-สเปน-ไนจีเรีย รวมทั้ง “โจเซฟ เอสตราดา” อดีตผู้นำทรราชของฟิลิปปินส์ ยกเหตุคอร์รัปชัน-ละเมิดสิทธิมนุษยชน นำไปสู่การถูกยึดอำนาจ ทำแสบปลอมชื่อพำนักในเยอรมันนานนับปี แถมพกพาสปอร์ตผิดกฎหมาย ชี้ เสื้อแดงเผาเมืองเป็นความโกธรเกรี้ยวที่ตอบโต้รัฐบาล ถูกตัดสินว่ามีความผิดฐานคอร์รัปชันจริง นับแต่หลบหนีออกนอกประเทศ

เว็บไซต์ www.foreignpolicy.com ซึ่งเป็นของนิตยสาร “ฟอรีน โพลิซี” (Foreign Policy) เจ้าของเดียวกับหนังสือพิมพ์ เดอะวอชิงตัน โพสต์ ได้ตีพิมพ์บทความที่ชื่อว่า Bad Exes หรือ “อดีตผู้นำที่เลว” โดยผู้เขียนที่ชื่อ Joshua E.Keating เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม ที่ผ่านมา ซึ่งเนื้อหาในเว็บไซต์แห่งนี้ ยังตีพิมพ์ลงในนิตยสาร Foreign Policy ซึ่งแบ่งออกเป็น 7 ภาษา ได้แก่ อารบิก บูกาเรีย ฝรั่งเศส ญี่ปุ่น โปรตุเกส เกาหลี และ สเปน อีกด้วย

บทความดังกล่าวมีเนื้อหาโดยสรุประบุถึงพฤติกรรมผู้นำประเทศ ที่เป็นตัวอย่างไม่ดีในการบริหารประเทศ โดยในตอนต้น บทความดังกล่าว ระบุว่า นายกรัฐมนตรี และประธานาธิบดีเกือบทั้งหมด เมื่อลาจากตำแหน่งอันยิ่งใหญ่แล้ว ก็มักจะอุทิศชีวิตสร้างสรรค์สิ่งที่งดงามให้แก่โลก หรืออย่างน้อยก็หลีกเร้นเข้าสู่โลกสมถะ แต่ยังมีอดีตผู้นำอีก 5 คน ซึ่งไม่เคยมีวิถีเช่นนั้นเลย

สำหรับอดีตผู้นำประเทศที่ถูกพูดถึงในบทความ ได้แก่ นายแกร์ฮาร์ด ชโรเดอร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของเยอรมนี, นายโคเซ มารีอา อัซนาร์ อดีตนายกรัฐมนตรีของสเปน, นายโอลูเซกัน โอบาซันโจ อดีตประธานาธิบดีของไนจีเรีย, นายโจเซฟ เอสตราดา อดีตประธานาธิบดีของฟิลิปปินส์ และ พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีของไทย โดยมีเนื้อหาที่กล่าวถึง พ.ต.ท.ทักษิณ ดังต่อไปนี้

พ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีในปี 2543-2549 ท่ามกลางข้อกล่าวหาคอร์รัปชัน และละเมิดสิทธิมนุษยชน เหตุการณ์รัฐประหารในปี 2549 ก็ได้ทำให้ทักษิณหลุดพ้นจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี หลังจากนั้น เขาก็ใช้ชีวิตไม่เป็นหลักเป็นแหล่ง ต้องเดินทางไปมาหลายประเทศ ในการนี้อดีตเศรษฐีนักธุรกิจอย่างทักษิณ ก็ได้รับตำแหน่งอีกหลายตำแหน่งจากบรรดามิตรประเทศ เช่น ทูตพิเศษของนิการากัว ที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจของกัมพูชา และกลายมาเป็นเจ้าของสโมสรฟุตบอลแมนเชสเตอร์ ซิตี เป็นเวลาสั้นๆ อย่างไรก็ตาม รายงานระบุว่า ทักษิณต้องปลอมชื่อตนเอง เพื่อหลบลี้ภัยอยู่ในเยอรมนีนับปี อีกทั้งยังได้ใช้หนังสือเดินทาง (พาสปอร์ต) ที่ออกโดยผิดกฎหมายจากหลายประเทศ ทว่า ตอนนี้เขาพำนักอยู่กับบ้านของเขาที่ดูไบ

ในปีนี้ กลุ่มเสื้อแดง ผู้สนับสนุน พ.ต.ท.ทักษิณ ได้ยึดพื้นที่ใจกลางกรุงเทพฯ และสร้างความโกลาหลเผาทำลายศาลากลางจังหวัดทั่วประเทศ นี่คือ ความโกรธเกรี้ยวที่ตอบโต้ความพยายามของรัฐบาลในการสลายการชุมนุม ในการปะทะระหว่างผู้ชุมนุมที่ติดอาวุธกับตำรวจก่อนที่ทั้งสองฝ่ายจะยินยอม ยุติ ทำให้มีผู้เสียชีวิตราว 90 คน ศาลได้พิพากษา พ.ต.ท.ทักษิณผู้หลบหนีคดี ว่า ยุยงปลุกปั่นให้เกิดการชุมนุมประท้วง แม้ครั้งหนึ่ง พ.ต.ท.ทักษิณ เคยเดินสายบอกกับชาวบ้าน ว่า ผมจะทำให้คนไทยทุกคนเป็นคนรวย ถ้าหากพวกผมได้กลับมามีอำนาจทางการเมือง แต่ทักษิณก็ยังคงปฏิเสธว่าเขาให้เงินทุนแก่กลุ่มเสื้อแดง แม้ว่าทักษิณจะอ้างว่า ทุกข้อกล่าวหาที่เขาได้รับเป็นแรงกดดันทางการเมือง แต่เขาก็ได้ถูกตัดสินไปแล้วว่ามีความผิดฐานคอร์รัปชันจริง นับแต่วันที่เขาหลบหนีออกนอกประเทศ

หลังจากความพ่ายแพ้ของกลุ่มเสื้อแดง พ.ต.ท.ทักษิณ ก็หันมามีบทบาททางการเมืองผ่านสื่ออีกครั้งในเดือนสิงหาคม 2553 ทักษิณได้คืนตำแหน่งที่ปรึกษาทางเศรษฐกิจให้แก่กัมพูชา เพื่อลบความบาดหมางของทั้งสองประเทศ

วันศุกร์ที่ 1 ตุลาคม พ.ศ. 2553

สมิทธฟันธง! "พายุใหญ่ถล่มไทย-กทม.จมใต้บาดาล" สิงหา-ตุลาคม นี้

ไม่เชื่อก็อย่าลบหลู่ท่านเคยเตือนเรื่องซูนามิมาแล้วยังจำกันได้หรือเปล่าครับ ระวังกันหน่อยก็ดี


" สมิทธ" ฟันธง "ส.ค.-ต.ค." พายุใหญ่ถล่มประเทศไทย ทำให้ กทม.จมบาดาล ระบบประปาพินาศ คนเมืองหลวงไม่มีน้ำใช้ จี้หน่วยงานรัฐเร่งหามาตรการรับมือโดยด่วน ขณะที่อดีตนายกสภาวิศวกรรมสถานฯ หวั่น "วัดพระแก้ว" เสียหายหากเกิดน้ำท่วมพระบรมมหาราชวัง
การออกมาแจ้งเตือนให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องเตรียมตัวรับมือ กับภัยพิบัติครั้งใหญ่ ที่อาจจะเกิดขึ้นกับประเทศไทย โดยเฉพาะในพื้นที่กรุงเทพมหานครของ ดร.สมิทธ ธรรมสโรช ผู้อำนวยการศูนย์เตือนภัยพิบัติแห่งชาติ ครั้งนี้ เมื่อวันที่ 4 มิถุนายน ในการเสวนาเรื่อง " แผนรับมือวิบัติภัยในมหานครกรุงเทพ" ซึ่งจัดโดยสถาบันพัฒนาเมือง กรุงเทพมหานคร
การเสวนาครั้งนี้มีนาย อภิรักษ์ โกษะโยธิน ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร ศ.ดร.ปณิธาน ลักคุณะประสิทธิ์ หัวหน้าศูนย์เชี่ยวชาญด้านวิศวกรรมแผ่นดินไหวและการสั่นสะเทือน จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และนายต่อตระกูล ยมนาค อดีตนายกสภาวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมเสวนา
ดร. สมิทธกล่าวว่า จากการศึกษาและติดตามสถานการณ์ภัยพิบัติมาโดยตลอด พบว่าภัยพิบัติที่จะกระทบ กทม.และปริมณฑล มีอยู่ 2 ประเภท คือ ภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหว และภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขัง ซึ่งเกิดจากสภาวะโลกร้อน โดยภัยที่เกิดจากแผ่นดินไหวเป็นภัยที่รุนแรงและมีผลกระทบต่อมนุษย์จำนวนมาก
ทั้งนี้ ประเทศไทยมีรอยเลื่อนที่มีพลังอยู่ 13 รอย และจากการศึกษาพบว่า หลังจากเกิดเหตุการณ์สึนามิ รอยเลื่อนทั้งหมดเกิดรอยร้าวเพิ่มมากขึ้นตั้งแต่ปี 2547 ถึงปัจจุบัน ซึ่งการเกิดรอยร้าวดังกล่าวทำให้อาคารที่โครงสร้างไม่แข็งแรงใน จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ มีโอกาสถล่มลงมาได้
ดร.สมิทธกล่าวต่อว่า ในพื้นที่ กทม.อาจได้รับผลกระทบโดยตรงจากรอยเลื่อน 2 รอย คือ รอยเลื่อนศรีสวัสดิ์ และรอยเลื่อนเจดีย์สามองค์ จ.กาญจนบุรี หากเกิดแผ่นดินไหวซ้ำขึ้นมาอีก เชื่อว่าจะส่งผลให้เขื่อนศรีนครินทร์และเขื่อนวชิราลงกรณ์แตก และทำให้น้ำปริมาณกว่า 17 ล้านลูกบาศก์เมตร ไหลทะลักเข้าสู่ จ.ราชบุรี จ.นครปฐม และ กทม.
" กรุงเทพฯ ตั้งอยู่บนดินเลน เมื่อได้รับผลกระทบจากแผ่นดินไหวแล้ว ระยะสั่นสะเทือนจะขยายตัว 2-3 ริกเตอร์ ทำให้อาคารที่สูงไม่เกิน 6 ชั้น อาจแตกร้าวและพังทลายลงมา ส่วนอาคารสูงไม่น่าเป็นห่วง เพราะวิศวกรได้ออกแบบอาคารไว้รองรับอยู่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ประเทศไทยไม่มีความพร้อมในการรับมือกับแผ่นดินไหว โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการให้ความช่วยเหลือกรณีเกิดภัยพิบัติ หากเกิดเหตุการณ์ขึ้นจริงอาจทำให้เกิดความเสียหายมาก" ดร.สมิทธกล่าว
ผู้อำนวยการศูนย์เตือน ภัยพิบัติแห่งชาติกล่าวว่า ภัยที่เกิดจากน้ำท่วมขัง เนื่องจากสภาวะโลกร้อนขึ้นนั้น จากสถิติไม่เคยปรากฏมาก่อนว่าพายุที่เกิดในมหาสมุทรอินเดียจะมีแรงลมสูงมาก ถึงขนาดเป็นไซโคลน
แต่ตอนนี้เกิดขึ้นแล้วคือพายุไซโคลนนาร์กีส ซึ่งมีความเร็วลมสูงถึง 140 กิโลเมตรต่อชั่วโมง และเมื่อขึ้นฝั่งในลุ่มน้ำอิระวดีในพม่า แรงลมสูงสุดถึง 240 กิโลเมตรต่อชั่วโมง มีความรุนแรงถึงระดับ 4



" ผมขอทำนายว่าในเดือน สิงหาคมถึงเดือนตุลาคมนี้ จะมีพายุขนาดใหญ่พัดถล่มประเทศไทย ทางด้านอ่าวไทย ไล่ตั้งแต่ จ.ชุมพร จ.สุราษฎร์ธานี และ จ.เพชรบุรี เข้ามา ซึ่งอาจทำให้เกิดปรากฏการณ์สตรอม เสิร์ช ( Strom Search) หรือน้ำทะเลยกตัวสูงขึ้น
ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะทำให้น้ำ ทะเลไหลเข้ามาถึงบริเวณปากอ่าวเจ้าพระยา และเข้าท่วมพื้นที่ กทม. โดยกว่าจะไหลย้อนกลับสู่ทะเลต้องใช้เวลานานกว่า 2-3 สัปดาห์ และหากท่วมเหนือคลองประปา จะทำให้ประชาชนไม่มีน้ำในการอุปโภคบริโภค" ดร.สมิทธกล่าว
ด้าน นาย ต่อตระกูลกล่าวว่า มีความเป็นห่วงว่าหากเกิดน้ำท่วมใหญ่ขึ้นจริงจะทำให้อาคารและสิ่งปลูกสร้าง ที่สำคัญหลายแห่งเสียหายโดยเฉพาะวัดพระแก้ว ซึ่งก่อสร้างในสมัยรัชกาลที่ 1 ไม่ได้มีการฝังเสาลงดิน หากเกิดน้ำท่วมในพื้นที่พระบรมมหาราชวังก็จะทำให้เสื่อมความแข็งแรงลงอย่าง รวดเร็ว
หลังการเสวนา "คม ชัด ลึก" ได้สอบถามไปยัง ดร.วัฒนา กันบัว ผู้อำนวยการฝ่ายอุตุนิยมวิทยาทะเล กรมอุตุนิยมวิทยา เกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่อาจจะเกิดพายุใหญ่พัดถล่มประเทศไทยตามที่ ดร.สมิทธกล่าวในการเสวนา ดร.วัฒนาระบุว่า มีความเป็นไปได้ที่ช่วงเดือนสิงหาคม-ตุลาคม
อาจจะเกิด พายุใหญ่ถล่มประเทศไทย เพราะช่วงดังกล่าวเป็นช่วงฤดูฝน อยู่ระหว่างช่วงลมมรสุมตะวันตกเฉียงใต้พัดเข้าประเทศไทย จากสถิติที่ผ่านมาพบว่าช่วงดังกล่าวมีพายุพัดถล่มประเทศไทยมาแล้วหลายครั้ง อย่างเช่น พายุไต้ฝุ่นเกย์ พายุไต้ฝุ่นลินดา ที่สร้างความเสียหายให้แก่ประเทศไทยเมื่อหลายปีก่อนก็เกิดขึ้นในช่วงนี้
ดร. วัฒนากล่าวต่อว่า สภาวะโลกร้อนอาจส่งผลให้ความรุนแรงของพายุเพิ่มมากขึ้นจากเดิมถึง 2 เท่า หากพายุพัดเข้าสู่พื้นที่ที่เป็นเมืองก็อาจทำให้เกิดความเสียหายอย่างหนัก โดยเฉพาะหากพายุเคลื่อนเข้าประเทศไทยทางฝั่งภาคตะวันออกจะทำให้เกิดผลกระทบ ต่อพื้นที่ กทม.โดยตรง ซึ่งมีความเป็นห่วงว่า
หากมีพายุ พัดเข้าบริเวณปากแม่น้ำเจ้าพระยาจะสร้างความเสียหายอย่างรุนแรง ให้แก่ กทม. เนื่องจากขณะนี้แม้จะมีการสร้างเขื่อนกั้นริมตลิ่งแม่น้ำเจ้าพระยาในหลายจุด แต่การสร้างเขื่อนที่ผ่านมาทำเพื่อรองรับปัญหาน้ำท่วมที่เกิดจากน้ำเหนือ ไหลหลาก
ไม่ได้มีไว้รองรับพายุที่ พัดเข้ามาทางปากแม่น้ำเจ้าพระยา ขณะนี้บริเวณปากแม่น้ำยังไม่มีการก่อสร้างเขื่อน หากเกิดพายุพัดกระหน่ำจริง เขื่อนที่มีอยู่ก็ไม่สามารถป้องกันไม่ให้เกิดน้ำท่วมได้
ดร.วัฒนา กล่าวด้วยว่า มีความเป็นห่วงว่าหากช่วงเวลาที่เกิดพายุตรงกับช่วงที่ระดับน้ำทะเลขึ้นสูง สุดจะยิ่งทำให้เกิดความเสียหายร้ายแรง เพราะในช่วงเวลาดังกล่าวอาจทำให้เกิดคลื่นขนาดยักษ์พัดกระหน่ำบริเวณชายฝั่ง
หากอาคารบ้านเรือนตามแนว ชายฝั่งไม่แข็งแรงก็จะสร้างความเสียหายร้ายแรงทั้ง ชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน ขณะนี้กรมอุตุนิยมวิทยามีการติดตามสภาพอากาศอย่างใกล้ชิด ซึ่งจะแจ้งเตือนประชาชนล่วงหน้า
ทั้งนี้ หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมความพร้อมไว้ด้วย โดยเฉพาะหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในการอพยพผู้ประสบภัย เพราะขณะเกิดเหตุภัยพิบัติหากมีการอพยพประชาชนออกจากพื้นที่ประสบภัยได้รวด เร็ว ความเสียหายต่อชีวิตของประชาชนก็จะลดน้อยลง

สรุปรางวัลอิกโนเบล 2010

สรุปรางวัลอิกโนเบล 2010 ในสาขาต่างๆ พร้อมงานวิจัยจริงๆ ของพวกเขา ใครสนใจค้นคว้าเพิ่มเติมไปหาอ่านกันได้ตามที่เราได้แนบรายงานอ้างอิงไว้ใน แต่ละสาขา

สาขาวิศวกรรม : คารินา เอซเวโด-ไวท์เฮาส์, อังเนส โรชา-กอสเซลิน และไดแอน เกนดรอน ทั้ง 3 ร่วมกันพัฒนาวิธีการเก็บน้ำมูกวาฬ โดยควบคุมผ่านเฮลิคอปเตอร์

REFERENCE: "A Novel Non-Invasive Tool for Disease Surveillance of Free-Ranging Whales and Its Relevance to Conservation Programs," Karina Acevedo-Whitehouse, Agnes Rocha-Gosselin and Diane Gendron, Animal Conservation, vol. 13, no. 2, April 2010, pp. 217-25.

สาขาการแพทย์ : ไซมอน รีตเวล์ด และ อิลยา ฟาน บีสต์ ที่สังเกตอาการของผู้ป่วยหอบหืดที่เล่นรถไฟเหาะตีลังกา

REFERENCE: "Rollercoaster Asthma: When Positive Emotional Stress Interferes with Dyspnea Perception," Simon Rietveld and Ilja van Beest, Behaviour Research and Therapy, vol. 45, 2006, pp. 977-87.

สาขาการวางแผนคมนาคม : จากญี่ปุ่นคือ โตชิยูกิ นาคากากิ, อัตซูชิ เทโร, ไซอิจิ ทากากิ, เท็ตสึ ไซกูซะ, เคนทาโร อิโตะ, เคนจิ ยูมิกิ, เรียว โคบายาชิ และจากสหรราชอาณาจักร คือแดน เบบเบอร์, มาร์ก ฟริเกอร์ พวกเขาใช้ราเมือก (slime mold) พิจารณาความเหมาะสมในการวางเส้นทางรางรถไฟ

REFERENCE: "Rules for Biologically Inspired Adaptive Network Design," Atsushi Tero, Seiji Takagi, Tetsu Saigusa, Kentaro Ito, Dan P. Bebber, Mark D. Fricker, Kenji Yumiki, Ryo Kobayashi, Toshiyuki Nakagaki, Science, Vol. 327. no. 5964, January 22, 2010, pp. 439-42.

(** ทีมวิจัยคณะใหญ่ชุดนี้ เคยได้รับอิกโนเบลไปแล้วครั้งหนึ่งในปี 2008 โดยพวกเขาสามารถสาธิตให้เห็นว่า "ราเมือก" ที่พวกเขาศึกษาอย่างจริงจังนั้น สามารถช่วยแก้ไขปัญหาต่างๆ ได้)

สาขาฟิสิกส์ : ไลแอนเน่ พาร์กิน, เชียอิลา วิลเลียมส์ และแพทริเซีย เพรียสต์ ทั้ง 3 นำเสนอวิธีการที่จะไม่ลื่นหกล้มบนแผ่นน้ำแข็งในฤดูหนาว ก็เพียงแค่ใส่ถุงเท้าหุ้มรองเท้าเอาไว้ก็สิ้นเรื่อง !!

REFERENCE: "Preventing Winter Falls: A Randomised Controlled Trial of a Novel Intervention," Lianne Parkin, Sheila Williams, and Patricia Priest, New Zealand Medical Journal. vol. 122, no, 1298, July 3, 2009, pp. 31-8.

สาขาสันติภาพ : ริชาร์ด สตีเฟนส์, จอห์น อัตคินส์ และแอนดริว คิงส์ตัน พวกเขาค้นพบว่า ด่าบ้างระบายอารมณ์บ้าง จะช่วยบรรเทาความเจ็บปวด

(**คำเตือนจากเรา : ระวังอย่าไปด่าคนอื่นเข้าจะกลายเป็นทำลายสันติภาพแทน)

REFERENCE: "Swearing as a Response to Pain," Richard Stephens, John Atkins, and Andrew Kingston, Neuroreport, vol. 20 , no. 12, 2009, pp. 1056-60.

สาขาสาธารณสุข : มานูเอล บาร์ไบโต, ชาร์ลส์ แมธิวส์ และลาร์รี เทย์เลอร์ พวกเขาพบว่า พวกจุลชีพในห้องแล็บต่างปีนป่ายเข้าไปซุกซ่อนตามหนวดของนักวิทยาศาสตร์ ดังนั้นนักวิทย์ที่ไว้หนวดระวังอันตรายจากสิ่งมีชีวิตเล็กๆ เหล่านี้ด้วย

REFERENCE: "Microbiological Laboratory Hazard of Bearded Men," Manuel S. Barbeito, Charles T. Mathews, and Larry A. Taylor, Applied Microbiology, vol. 15, no. 4, July 1967, pp. 899-906.

สาขาเศรษฐศาสตร์ : บรรดา ผู้บริหารและผู้อำนวยการของโกล์ดแมนแซคส์, เอไอจี, เลห์แมน บราเธอร์ส, แบร์ สเติร์นส์, เมอร์ริลล์ ลินช์, และ แม็กเนตาร์ ในฐานะที่สร้างและผลักดันวิธีการลงทุนแนวใหม่ ซึ่งเป็นแนวทางที่ทำให้ภาคการเงินเติบโตถึงขีดสุด และตกต่ำลงอย่างที่สุด

REFERENCE: ค้นหาข่าวย้อนหลังอ่านกันได้เลย มีอยู่มากมายทั่วโลก

สาขาเคมี : เอริก อดัมส์, สก็อตต์ โซโคโลฟสกี และสตีเฟน มาซูทานี ที่พิสูจน์ค้านแนวคิดที่ว่า น้ำกับน้ำมันเข้ากันไม่ได้ งานวิจัยชิ้นนี้สนับสนุนโดยบีพี

REFERENCE: "Review of Deep Oil Spill Modeling Activity Supported by the Deep Spill JIP and Offshore Operator’s Committee. Final Report," Eric Adams and Scott Socolofsky, 2005.

สาขาการจัดการ : อเลซซานโดร พูลชิโน, อันเดรีย ราพิซาร์ดา และเคซาเร กาโรฟาโล พวกเขาแสดงให้เห็นในทางคณิตศาสตร์ว่า องค์กรจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น หากเลื่อนขั้นพนักงานโดยการสุ่ม (หรือตามใจเจ้านาย)

REFERENCE: “The Peter Principle Revisited: A Computational Study,” Alessandro Pluchino, Andrea Rapisarda, and Cesare Garofalo, Physica A, vol. 389, no. 3, February 2010, pp. 467-72.

สาขาชีววิทยา : ทีมวิจัยจากจีน ลิเปียว เจี้ยง, มิน ตัง, กว่างเจี้ยน จู, เจี้ยนผิง อี้, ตี้อู๋ ฮอง, ซานอี เจียว, ซูอี เจี้ยง และการเร็ธ โจนส์ ที่พวกเขาสามารถบันทึกภาพยนตร์สารคดีทางวิทยาศาสตร์ของค้างคาวกินผลไม้ขณะทำออรัลเซ็กซ์ (ดูคลิปค้างคาว http://www.youtube.com/watch?v=1ERJ_O1Ze40)

REFERENCE: "Fellatio by Fruit Bats Prolongs Copulation Time," Min Tan, Gareth Jones, Guangjian Zhu, Jianping Ye, Tiyu Hong, Shanyi Zhou, Shuyi Zhang and Libiao Zhang, PLoS ONE, vol. 4, no. 10, e7595.

วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เคล็ดไม่ลับ ประจำบ้าน

การรักษาเครื่องซักผ้า

เวลาที่ไม่ใช้เครื่องซักผ้า
ให้เปิดฝาทิ้งไว้เสมอ
ช่วยรักษาแผ่นยางที่อยู่ตรงประตูเครื่อง
และช่วยให้เครื่องไม่มีกลิ่นด้วยจ้ะ
===


ล้างห้องน้ำด้วยโค้ก

การทำความสะอาดชักโครก
ให้ปราศจากคราบ
และดูเหมือนใหม่เสมอ
คือ ให้ชักโครกกินโค้กซะบ้าง
เทโค้กใส่ลงในชักโครก
ปล่อยให้ชักโครกดื่มโค้กอย่างสบายใจ
สักสองสามชั่วโมง
คราบสกปรกจะหลุดออกหมด
===


น้ำตาเทียนหยดใส่พื้น

ไม่ว่าจะเป็นพื้นพรม พื้นไม้
หรือโต๊ะ ตู้
ถ้ามีน้ำตาเทียนหยดใส่
อย่ามัวแต่นั่งแกะให้เสียเวลา
ให้เอากระดาษทิชชู่หนา ๆ
วางบนคราบน้ำตาเทียนนั้น
แล้วเอาเตารีดไฟปานกลางมารีด ๆ
น้ำตาเทียนจะหลุดติดกับทิชชู่
ระวังอย่าให้ไฟแรงมากนะ
เดี๋ยวไหม้
===


ทำให้บ้านหอม

ไม่ต้องพึ่งสเปรย์หอมกันแล้ว
ให้เอาส้มเช้ง
มาปักไว้ด้วยกานพลูหลาย ๆ ดอก
วางทิ้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ในบ้าน
ใส่แก้วสวย ๆ ก็จะดูดี
ดูเหมือนของตกแต่ง
ทีนี้กลิ่นในบ้านจะหอมหวนตลอดเวลา
ข้อควรระวัง
ต้องหมั่นเปลี่ยนส้มซักหน่อย
อย่าทิ้งไว้จนเน่า
ไม่งั้นคงได้กลิ่นตรงกันข้าม
===


ไมโครเวฟหอมชื่นใจ

เอาชามใส่น้ำอุ่นบีบมะนาว
วางไว้ตรงกลางไมโครเวฟ
เปิดเครื่องร้อนสุดห้านาที
ความร้อนจากน้ำจะทำให้คราบสกปรก
หลุดโดยง่าย
และมะนาวจะช่วยให้กลิ่นหอมสดชื่
===


ลอกสติ๊กเกอร์

สติ๊กเกอร์ที่แปะตู้เย็น
คอมพิวเตอร์ หรือตามผนังอะไรก็ตาม
เวลาเบื่อแล้วจะลอกทิ้งไป
ให้ใช้น้ำมันก๊าดชุบผ้าหมาด ๆ
เช็ดถูตรงสติ๊กเกอร์
แล้วปล่อยทิ้งไว้สักพัก
สติ๊กเกอร์จะหลุดออกมาโดยง่าย
===


กระจกใส

น้ำยาเช็ดกระจก
นอกจากจะมีสารเคมีแล้ว
ยังเสียเงินแพงอีกด้วย
ใช้วิธีนี้จะดีกว่า
ให้เอาน้ำอุ่นใส่ถัง
เอาหอมใหญ่มาปอกเปลือก
แล้วผ่าสี่
ใส่หอมลงไปในถัง
แค่นี้แหละ
เช็ดกระจกได้ใสแจ่มแจ๋วเหมือนใหม่
===


ทำความสะอาดเตาอบ

1. ตั้งเตาอบไว้ที่ความร้อน 200 องศาเซลเซียส
ปล่อยไว้ 3 นาที
แล้วจึงปิดเครื่อง

2.
เอาหม้อใส่น้ำเดือดตั้งไว้ที่พื้นเตาอบ

3.
เอาชามทนไฟใบเล็ก ๆ
ใส่แอมโมเนีย
วางบนตะแกรงเตาอบ
เหนือหม้อน้ำเดือดที่ใส่ไว้

4.
ปิดฝาเตาอบทิ้งไว้หลาย ๆ ชั่วโมง
แล้วค่อยนำผ้า
มาเช็ดทำความสะอาดเตาอบ
คราบต่าง ๆ จะหลุดลอกออกมาโดยง่าย

===


กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในตู้เย็น

1. เอากาแฟเย็นใส่ถ้วย
วางไว้หนึ่งคืน
กลิ่นจะหายไปดังปลิดทิ้ง

2.
เอามันฝรั่งผ่าครึ่งใส่ชามเล็ก ๆ วางไว้
มันฝรั่งจะดูดกลิ่นไปหมด

3.
เอาถุงชาที่ยังไม่ได้ชงใส่ไว้
ถุงชาจะซับกลิ่นเช่นเดียวกับมันฝรั่ง
จะวางถุงทิ้งไว้ตลอดก็ได้
ซักสองอาทิตย์ก็เปลี่ยนครั้งนึง
ตู้เย็นจะได้หอมตลอดกาล

===


กำจัดกลิ่นบนเขียง

หลังจากที่ใช้เขียง
หั่นหอมกระเทียม
เขียงมักจะเก็บกลิ่นฉุนไว้ติดแน่น
ให้เอามะนาวผ่าซีก
มาถูบนเขียงให้ทั่ว
แล้วล้างออก
กลิ่นจะหายไป

===


กำจัดขนสัตว์เลี้ยง

ขนสัตว์เลี้ยง
ที่ติดตามโซฟา เบาะ
กำจัดได้โดย
ใส่ถุงมือยาง
ชุบน้ำหมาด ๆ
แล้วเอาถุงมือนี่แหละ
ไปถู ๆ ตามโซฟา
ขนจะม้วนติดกันเป็นก้อน ๆ
เก็บทิ้งได้ง่าย

===

ไล่แมวแบบนิ่ม ๆ

เอาแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์
วางไว้บนที่ที่ไม่อยากให้แมวมา
แมวเกลียดเจ้าแผ่นนี้มาก
จะเป็นเพราะเสียงกรอบแกรบ
หรือแสงสะท้อนก็ไม่ทราบ

===

ไล่แมลงวัน

แมลงวันชอบเข้ามาอยู่ในครัว
ให้เอาแก้วใส่น้ำอุ่นครึ่งแก้ว
ใส่น้ำส้มสายชู
ลงไปซัก 2-3 ช้อนโต๊ะ
ใส่น้ำตาลนิดนึง
ปิดฝาแก้วด้วยพลาสติก
จิ้มรูไว้หลาย ๆ รู
แมลงวันได้กลิ่นแล้วจะหนีไป

===

ไล่แมงมุม

แมงมุมชอบมาชักไย
ไว้ตามซอกมุมต่าง ๆ
วิธีไล่แมงมุมง่าย ๆ
ก็คือ วางชามใส่เกลือไว้ตรงซอก
ที่แมงมุมชอบชักไย
เกลือจะดูดความชื้น
ทำให้แมงมุมสร้างไยไม่สำเร็จ

===

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

พวกมานุดเงินเดือนทั้งหลายมาอ่านกันหน่อยเร็วๆๆ

ทฤษฎีแม่นกเลี้ยงลูกนก
ทุกครั้งที่แม่นกได้อาหารมาป้อนลูกนก
ลูกนกที่อยู่ในรังตัวที่ “แหกปาก” ร้องได้ดัง “โก่งคอ” ได้สูงจะได้กิน
ส่วนตัวที่คอพับคออ่อนแหกปากร้องก็ไม่เป็นจะอด
นานวันเข้าตัวแหกปากจะโตวันโตคืน
ส่วนตัวที่แหกปากไม่เป็นก็เหี่ยวเฉาตาย
นี่เป็นเหตุที่ว่าในลูกนกสี่ห้าตัว จะมีตัวลอดเพียงสองสามตัว
ส่วนที่เหลือก็ตายไป และที่รอดก็คือ
“พวกที่แหกปากร้อง”
ถามว่า “เป็นความผิดของแม่นกหรือ?”
ถามว่า “ลูกนกที่แหกปากไม่เป็นผิดหรือ?”
“ถ้าไม่ผิดทำไม่เขาต้องตาย?”

มนุษย์กับสัตว์มี “สมอง” เหมือนกัน แต่สัตว์มีเพียง “สัญชาติญาณ”
ส่วนมนุษย์ที่เขาเรียกว่า “สัตว์ประเสริฐ”
นอกจากมี “สัญชาติญาณ” แล้วยังมี “สติ” “สัมปชัญญะ” สามารถ “วิเคราะ” “พิจารณา” สามารถ “วางระเบียบ กฎเกกณฑ์” สามารถแบ่งสันปันส่วนให้ลูกนกได้อาหารครบทุกตัว
ถามว่า “จริงหรือ?”


ณ โรงพยาบาลสถานเลี้ยงเด็กทารกแห่งหนึ่ง
เด็กคนไหน “แหกปากร้อง” นางพยาบาลก็จะเอาขวดนมยัดใส่ปาก
ส่วนเด็กที่นิ่ง นางพยาบาลก็คิดว่า “มันคงยังไม่หิว” “มันก็ดีอยู่แล้วนี่” “ปล่อยมันไป”


ผลของการ “อดทน” คือ “อดแดก”

ณ บริษัทแห่งหนึ่ง.............(จินตนาการต่อกันเอาเองครับ คงพอเดาตอนจบได้)
ผลของการ “อดทน” คือ “อดแดก”

วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โลกเราอีก ๑๐๐ หรือพันปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร คุณยายวานก้าไขความลับเอาไว้


Vanga วานก้า หรือชื่อจริงคุณยาย วานเกเลีย ปานเดว่า กุชเตโรว่า เป็นชาวบัลแกเรีย ซึ่งตายไปเมื่อหลายปีก่อน คุณยายผู้นี้เกิดเมื่อ 31 มกราคม 1911 ใน ครอบครัวชาวนายากจนที่หมู่บ้าน สตรูมิซ่า ที่ปัจจุบันอยู่ใน มาเซโดเนีย เมื่อคลอดออกมา คุณยายทำท่าว่าจะไม่รอดตั้งแต่หลังคลอด แต่ไม่ยักกะตาย และหลังจากมีอายุได้ 2 เดือน เด็กน้อยก็กลับมาแข็งแรงเหมือนเด็กปกติ ตอนอายุ 3 ขวบ แม่คุณยายก็เกิดมาตาย ไม่นานหลังจากนั้น พ่อก็ถูกเกณฑ์ไปรบในสงครามโลกครั้งแรก เพื่อนบ้านต้องช่วยกันดูแลเด็กน้อยแทน หลังจากพ่อกลับมา ชีวิตของท่านก็ดีขึ้น เมื่อพ่อมีเมียใหม่ แม่ใหม่ก็ไม่ได้รังเกียจลูกเลี้ยงพอคุณยายมีอายุได้ 12 ขวบ ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดกับตัวท่าน กล่าวคือได้เกิดพายุหมุนในหมู่บ้าน ( โดยก่อนและหลังเหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่เคยมีปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลย) พายุได้หอบเอาคุณยายขึ้นไปเบื้องบน ก่อนจะปล่อยตกลงมาในภายหลัง และหลังจากนั้นตาของคุณยายก็เริ่มมองไม่เห็น หลังการผ่าตัดก็ไม่หาย และมองไม่เห็นโดยสิ้นเชิง 3 ปีหลังเหตุการณ์นั้นปี 1925 คุณยายถูกส่งตัวเข้าโรงเรียนคนตาบอด และใช้เวลาอยู่ที่นี่ 3 ปี เมื่อกลับมาบ้าน ก็ต้องเจอกับชีวิตที่ยากลำบาก ทั้งความยากจน งานหนัก และโรคภัยไข้เจ็บที่เกือบจะคร่าชีวิต แต่ในช่วงนั้นเองที่คุณยายเริ่มรู้สึกตัวว่ามีอำนาจพิเศษ นั่นก็คือการมองเห็นเหตุการณ์ต่างๆทั้งจากในความฝัน พรายกระซิบ และอื่นๆ ทำให้สามารถทำนายทายทักเหตุการณ์ทั้งที่จะเกิดในอนาคต และเกิดมาแล้วได้อย่างแม่นยำมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องทหารที่สูญหายไปในแนวหน้า แต่ตอนแรก คุณยายไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับใคร กลัวจะถูกหาว่า นอกจากบอดแล้วยังบ้าคำทำนายครั้งแรกของคุณยาย มีขึ้นเมื่ออายุ 16 ปี คือการบอกถึงสถานที่ที่แพะของพ่อที่ถูกลักไป ถูกนำไปซ่อน คุณยายบอกว่า ท่านเห็นสิ่งนี้ในฝันปี 1942 คุณยายแต่งงานกับหนุ่มที่รู้จักกันที่โรงเรียนคนตาบอด และเริ่มเป็นนักทำนายอย่างเป็นงานเป็นการตอนอายุ 30 ช่วง นี้คุณยายเริ่มโด่งดังมากขึ้น เมื่อทำนายทายทักว่า ทหารคนไหน จะกลับมาจากแนวหน้า หรือไม่ได้กลับ ทำให้ผู้คนแห่แหนกันมาหาคุณยาย ให้ช่วยทำนายทายทัก ทั้งเรื่องทหาร เรื่องโรคที่ป่วยจากการประเมิน เชื่อว่า มีผู้มาขอความช่วยเหลือจากคุณยายมากถึงกว่าล้านคน แต่ไม่มีหลักฐานอะไรมายืยยันเรื่องนี้ได้ เพราะไม่ได้มีการจดบันทึกใดๆทั้งสิ้น นอกจากนั้น บางคนก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาหรือเธอ มาขอความช่วยเหลือจากคุณยายบ้านนอกตาบอด ว่ากันว่า หนึ่งในผู้ที่มาหาคุณยาย เพื่อให้ทำนายโชคชะตาก็คือ ฮิตเลอร์เมื่อ บัลแกเรีย กลายเป็นประเทศสังคมนิยม ทางการก็เข้ามาตรวจสอบคุณยาย แถมยังส่งคุณยายไปนอนถึงอยู่ครึ่งปี เพราะดันไปทำนายทายทักเรื่องการตายของสตาลิน แต่เมื่อเรื่องการตายเกิดขึ้นจริง พวกเขาก็ปล่อยคุณนายออกมา ฝ่ายศาสนาเองก็ไม่ชอบหน้าคุณยาย เพราะคำทำนายหลายข้อขัดแย้งกับความเชื่อทางศาสนาของกรีกออโธดอกซ์ในส่วนของความแม่นยำนั้น จากการทำวิจัยของนักวิทยาศาสตร์บัลแกเรียผู้หนึ่งที่ติด ตามคำทำนายมากกว่า 7 พันคำทำนายของคุณยาย ก็สรุปว่า ถูกต้องถึง 80 เปอร์เซ็นต์ โดยคำว่าแม่นในที่นี่ ระบุด้วยว่า เกินกว่าระดับที่จะถือได้ว่าเป็นการประจวบเหมาะและเมื่อไม่สามารถสยบกระแสนิยมการมาใช้บริการ ทางการก็เลยหาทางทำเงินทำทองจากเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ ปี 1967 จนถึง 1990 คุณ ยาย ถือเป็นข้าราชการคนหนึ่ง และมีการกำหนดสนนราคาการเข้ามาขอใช้บริการของคุณยายวานก้า ไว้อย่างเป็นกิจลักษณะ โดยคนจากประเทศสังคมนิยม 15 ประเทศคิดค่าบริการคนละ 10 เลียฟ (ประมาณ 2 ดอลล่าร์ ) ส่วนจากประเทศอื่นๆที่เหลือคิดคนละ 50 ดอลล่าร์ งานนี้ทางการรับเข้ากระเป๋าไปหมด ในส่วนของตัวคุณยาย ก็จะได้เงินเดือนเดือนละ 200 เลียฟ นอกจากนั้นก็ยังได้รถยนต์ บ้าน และคนรับใช้จากคนที่เคยถูกทางการจับ คุณยายวานก้า ได้กลายเป็น ความภาคภูมิใจของบัลแกเรียไปเสียแล้วเมื่อ มีคนชอบ ก็มีคนชัง คนที่ชิงชังคุณยายตาบอดรายนี้มากที่สุด ออกมาติติงคุณยายว่า ทีอันไหนทายถูกแล้วละก็ จำได้จำดี ส่วนอันไหนทายผิด ดันลืมไปหมดนานแล้ว นอกจากนั้น ก็ยังบอกว่าคุณยายทำงานประสานกับหน่วยข่าวกรองบัลแกเรียในการทำนายโชคชะตา ผู้คน คือให้หน่วยข่าวกรองไปสืบข้อมูลของคนที่จะมาพบคุณยายเป็นการล่วงหน้า เขาบอกว่าหลักฐานในเรื่องนี้ก็คือหลังจากรัฐบาลคอมมิวนิสต์ล้มลง ฝ่ายข้าวกรองไม่ได้เข้ามาช่วยเหลืออีกต่อไป การทายของคุณยายก็แย่ลง
เรือดำน้ำคูร์สค์ตัวอย่าง การทำนายของคุณยายวานก้าที่ว่าแม่นๆนั้น ก็อย่างเช่นเรื่องเรือดำน้ำคูร์สค์ ของรัสเซียที่ระเบิดเมื่อหลายปีก่อน ที่คุณยายทำนายไว้ตั้งแต่ปี 1980 คุณยายทำนายเรื่องนี้ว่า ' ในปี 1999 หรือ 2000 คูร์สค์ จะจมอยู่ใต้น้ำ ผู้คนทั้งโลกจะเศร้าใจกับมัน ' แต่ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อ เพราะเมืองคูร์สค์ อยู่ไกลจากทะเล หรือแม่น้ำ และไม่มีใครฉุกคิดว่าคุณยายทำนายถึงเรื่องดำน้ำคูร์สค์นอกจากนั้น คุณยายวานก้า ก็ยังทำนายตั้งแต่ปี 1979 ถึงการที่สหภาพโซเวียต จะกลับคืนมาเป็นรัสเซียเหมือนเดิม เรื่องที่สหรัฐถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี ในเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 ตั้งแต่ปี 1989 เรื่องการลงนามในสนธิสัญญาจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างกอร์บาชอฟกับเรแกน การเข้ามาอยู่ในกลุ่ม จี 8 ของรัสเซีย การกลับมาเป็นมหาอำนาจอีกครั้งของรัสเซีย การขึ้นมายิ่งใหญ่ของคนชื่อ วลาดิมีร์ และเรื่องวันตายของคุณยายเองคุณยายตายเมื่อ 11 สิงหาคม 1996 เวลา 10:10 น. ตรงตามที่ทำนายเอาไว้ทั้งวันที่ และเวลาและต่อไปนี้คือคำทำนายถึงโลกในอนาคตครับ .................


2008 - ผู้นำ 4 ประเทศถูกลอบสังหาร กรณีพิพาทในฮินดูสถาน เป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3


2010 - เริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3 ( พฤศจิกายน 2010 - ตุลาคม 2014 ) ตอน แรกก็ใช้อาวุธธรรมดา ต่อมาก็ตามด้วยนิวเคลียร์และอาวุธเคมี การนำอาวุธนิวเคลียร์มาใช้ ทำให้ซีกโลกเหนือ จะไม่เหลือทั้งพืชและสัตว์ จากนั้นพวกมุสลิม จะใช้อาวุธเคมีเข้าจัดการกับชาวยุโรปที่ยังหลงเหลืออยู่ ผู้คนจะป่วยเป็นฝีหนองและมะเร็งผิวหนังกันมากจากผลของอาวุธเคมี


2016 - ยุโรปแทบจะร้างผู้คน


2018 - จีนเป็นมหาอำนาจของโลกรายใหม่ ประเทศกำลังพัฒนา กลับกลายจากประเทศผู้ถูกกดขี่ มาเป็นผู้กดขี่เสียเอง


2023 - วงโคจรของโลกเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย


2028 - เกิด แหล่งพลังงานใหม่ (คาดว่า น่าจะเป็น เทอร์โมนิวเคลียร์ รีแอ็คชั่น ) โลกเริ่มเอาชนะปัญหาความอดอยากได้ มนุษย์เริ่มเดินทางไปยังดาวศุกร์


2033 - น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น


2043 - เศรษฐกิจโลกรุ่งเรือง มุสลิมปกครองยุโรป


2046 - มนุษย์ปลูกอวัยวะได้ทุกอย่าง การเปลี่ยนอวัยวะ เป็นวิธีการรักษาโรคที่ดีที่สุด


2066 - สหรัฐโจมตีกรุงโรมของพวกมุสลิมด้วยอาวุธใหม่ คืออาวุธสภาพอากาศ ซึ่งทำให้อากาศหนาวเย็นลง


2076 - สังคมไร้ชนชั้น (คอมมิวนิสต์)


2084 - ธรรมชาติได้รับการฟื้นฟู


2088 - เกิดโรคใหม่ โรคแก่ติดจรวด (แก่ในไม่กี่วินาที)


2097 - เอาชนะโรคแก่ติดจรวดได้


2100 - ดวงอาทิตย์เทียมให้แสงส่างกับโลกส่วนที่มืด


2111 - มนุษย์ กลายเป็นมนุษย์ไซบอร์ก (หุ่นยนต์มีชีวิต)


2125 - โลกได้รับสัญญาณจากอวกาศ


2130 - โลกไปตั้งอาณานิคมใต้น้ำ (จากคำแนะนำของมนุษย์ต่างดาว)


2164 - สัตว์ กลายเป็นสัตว์กึ่งมนุษย์


2167 - เกิดศาสนาใหม่


2183 - อาณานิคมบนดาวอังคารมีอาวุธนิวเคลียร์ และต้องการเป็นเอกราชจากโลก


2187 - โลกหยุดยั้งการระเบิดของภูเขาไฟขนาดใหญ่ 2 ลูก


2195 - อาณานิคมใต้น้ำ เลี้ยงตัวเองได้โดยสมบูรณ์ ทั้งอาหารและพลังงาน


2196 - ชาวเอเชียผสมกับชาวยุโรปโดยสมบูรณ์


2221 - ในการติดตามหาชีวิตนอกโลก มนุษย์ต้องเจอกับอะไรบางอย่างที่น่ากลัว


2256 - ยานอวกาศนำโรคร้ายกลับมายังโลก


2262 - วงโคจรของโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ดาวหางเกือบชนดาวอังคาร


2273 - การผสมปนเปกันของคนผิวขาว ผิวเหลือง และผิวดำ ก่อเกิดเป็นคนสีผิวใหม่


2279 - พบพลังที่ไม่ได้มาจากอะไรเลย (คาดว่าอาจจะมาจากสภาพสูญญากาศ หรือไม่ก็หลุมดำ )


2288 - มีการเดินทางไปกับกาลเวลา การติดต่อครั้งใหม่กับมนุษย์ต่างดาว


2291 - ดวงอาทิตย์เริ่มเย็นลง มีความพยายามที่จะจุดมันขึ้นมาใหม่


2296 - เกิดระเบิดครั้งใหญ่บนดวงอาทิตย์ สถานีอวกาศและดาวเทียมเก่าเริ่มตก


2299 - ในฝรั่งเศสเกิดการจลาจลต่อต้านมุสลิม


2302 - เปิดกฏใหม่เรื่องความลับของจักรวาล


2304 - พบความลับของดวงจันทร์


2354 - เกิดความผิดพลาดกับดวงอาทิตย์เทียม ก่อให้เกิดความแห้งแล้ง


2371 - เกิดปัญหาความอดอยากครั้งใหญ่


2480 - ดวงอาทิตย์เทียม 2 ดวงชนกัน


3005 - สงครามบนดาวอังคาร


3010 - ดาวหางชนดวงจันทร์ เศษซากที่กระจาย พากันโคจรรอบโลก


3797 - ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือบนโลก แต่มนุษย์ได้ไปวางสิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิตบนดาวดวงอื่นแล้ว-------------------------The end of the world-------------------------------และนี่คือคำทำนายในดาวดวงใหม่ที่มนุษย์ไปตั้งถิ่นฐาน


3803 - A new planet is populated by little. Fewer contacts between people. Climate new planet affects the organisms of people - they mutate.


3803 - มี ประชากรเพียงน้อยนิดบนดาวเคราะห์ดวงใหม่ และไม่ค่อยมีการติดต่อกัน สภาวะบนดาวดวงใหม่นี้สร้างผลกระทบกับร่างกายมนุษย์ - ทำให้เกิดการกลายพันธุ์


3805 - The war between humans for resources. More than half of people dying out.3805 - เกิดสงครามแย่งชิงทรัพยากรณ์ขึ้น ตายกันมากกว่าครึ่ง


3815 - The war is over.3815 - สงครามจบ


3854 - The development of civilization virtually stops. People live flocks as beasts.3854 - ดูเหมือนว่าการพัฒนาทางอารยธรรมจะชงักลง ผู้คนใช้ชีวิตราวสัตว์ป่า


3871 - New prophet tells people about moral values, religion.3871 - ศาสดาใหม่ถือกำเนิดขึ้น สั่งสอนผู้คนในเรื่องศีลธรรมและศาสนา (พ.ศ. 4414)


3874 - New prophet receives support from all segments of the population. Organized a new church.3874 - ศาสดาได้รับการสนับสนุนจากผู้คนทุกหมู่เหล่า จัดสร้างนิกายขึ้นมาใหม่


3878 - along with the Church to re-train new people forgotten sciences.3878 - เมื่อนิกายใหมถือกำเนิด ผู้คนยุคใหม่ก็ลืมเรื่องวิทยาศาสตร์


4302 - New cities are growing in the world. New Church encourages the development of new technology and science.4302 - เมืองต่างๆ เติบโตขึ้นบนโลก นิกายใหม่สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์


4302 - The development of science. Scientists discovered in the overall impact of all diseases in organism behavior4302 - ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ทำให้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ ภาพรวมของโรคทุกชนิด


4304 - Found a way to win any disease.4304 - เจอทางกำจัดโรคทุกชนิด


4308 - Due to mutation people at last beginning to use their brains more than 34%. Completely lost the notion of evil and hatred.4308 - ในที่สุดมนุษย์ก็ใช้สมองเกิน 34% ทำให้กำจัดความเกลียดชังออกไปจากใจได้


4509 - Getting to Know God. The man has finally been reached such a level of development that can communicate with God.4509 - ใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น มนุษย์พัฒนาถึงขั้นที่สามารถติดต่อกับพระเจ้าได้


4599 - People achieve immortality.4599 - มนุษย์เข้าถึงความเป็นอมตะ


4674 - The development of civilization has reached its peak. The number of people living on different planets is about 340 billion. Assimilation begins with aliens.4674 - อารยธรรมถูกพัฒนาไปจนถึงจุดสูงสุด ประชากรรวมๆ ในทุกๆ ดาวอยู่ที่ 340 พันล้านคน เริ่มมีการรวมเผ่าพันธุ์กับเอเลี่ยน


5076 - A boundary universe. With it, no one knows.5076 - สู่สุดขอบจักรวาล ที่ซึ่งหามีผู้ใดรู้จักไม่


5078 - The decision to leave the boundaries of the universe. While about 40 percent of the population is against it.5078 - เกิดการตัดสินใจก้าวข้ามขอบจักรวาล ในขณะที่ผู้คน 40% ไม่เห็นด้วย


5079 - End of the World.5079 - จบบริบูรณ์

วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วิธีติดตามรถเมื่อรถหายได้โดยเร็วที่สุด

เห็นว่ามีประโยชน์เลยเอามาบอกต่อ

เรียน ผู้บริหารและพนักงานทุกท่านทราบเพื่อเป็นข้อมูล
และขอขอบคุณ คุณอุทัยศร โสภากุล บุคคล เอ็ม พี ปาร์ติเกิล บอร์ด ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล

วิธีติดตามรถ เมื่อรถหายได้โดยเร็วที่สุด หากมีเหตุจำเป็นที่จะต้องจอดรถไว้ ไม่ว่าที่ใดก็ตามย่อมมีโอกาสเสี่ยงที่จะถูกโจรกรรมได้เสมอ และเมื่อมีเหตุเกิดขึ้น เป็นเรื่องยากยิ่งที่จะติดตามกลับคืนมาได้ อันเนื่องมาจาก กำลังของเจ้าหน้าที่มีน้อยและไม่รู้เส้นทางการหลบหนี ดังนั้นจึงมีอีกวิธี ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผล 100 % คือให้ท่านหาโทรศัพท์มือถือราคาถูกๆแต่ใช้งานได้ดี Battery ดี ซิมการ์ดระบบใดก็ได้ เปิดเครื่องและซ่อนไว้ในรถในจุดที่ลับตาที่สุด ที่คิดว่าคนร้ายจะไม่เห็น เปิดเครื่อง ปิดเสียง ปิดสั่นทิ้งไว้ในรถเมื่อท่านต้องจอดในบริเวณที่มีความเสี่ยง และล็อครถ ของท่านตามปกติ กรณีเกิดรถหาย ให้แจ้งที่ 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประสานงานกับผู้ให้บริการเครือข่ายของหมายเลขโทรศัพท์ที่ท่านซ่อนไว้ในรถเพื่อค้นหาตำแหน่งของรถท่าน เพื่อการติดตามจับกุมได้อย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่ รถที่หายจะยังอยู่บนถนน หากที่ใดมีคลื่นโทรศัพท์ ก็จะสามารถระบุตำแหน่งได้ ทุกวันนี้ซิมการ์ดระบบเติมเงินบางระบบเติมเท่าใดก็ใช้ได้เป็นปี ราคาไม่กี่ร้อย บวกค่าโทรศัพท์ที่ท่านหาซื้อได้ในราคาแค่พันต้นๆ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดแล้วครับ. อย่าลืมบอกต่อนะครับ
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ

วันอังคารที่ 27 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

ความสุขเกิดขึ้นเมื่อใด

ความสุข เกิดขึ้นระหว่างการเดินทาง
ความสุขไม่ได้อยู่ที่จุดหมายปลายทางที่ไปถึง


คุณบอกกับตัวเองว่า เมื่อได้แต่งงาน และมีลูก ชีวิตของคุณก็จะดีขึ้น
แต่เมื่อมีลูก และลูกของคุณยังเล็กอยู่ คุณก็เกิดความรู้สึกว่า
เมื่อเขาโตขึ้นเราคงมีความสุขและสบายขึ้น

แต่เมื่อลูกโตมากขึ้น จนย่างเข้าสู่วัยรุ่น
คุณกลับรู้สึกไม่ได้ดั่งใจอีกครั้ง
และเมื่อลูกๆ ผ่านพ้นช่วงวัยรุ่นไปได้

คุณคิดว่า คุณจะมีความสุขมากขึ้น
แต่คุณกลับบอกกับตัวเองอีกว่า จะรอให้ลูกๆ
จัดการกับตัวของเค้าเองให้เรียบร้อยดีเสียก่อน

บางครั้งคุณคิดว่า ถ้าคุณมีบ้าน มีรถ มีวันหยุดพักร้อนนานๆ
และเมื่อถึงวันเกษียณอายุการทำงาน

ชีวิตของคุณจะมีความสุขมากที่สุด
แต่เมื่อเกษียนแล้วก็จริง แต่ทำไมถึงยังไม่มีความสุขสักที

ความสุขของชีวิตอยู่ที่ไหนกัน?
แท้จริงแล้ว ความสุขของชีวิต อยู่ ณ ช่วงเวลาขณะนี้ ช่วงเวลาปัจจุบัน ไม่ต้องรอให้ความสุขมาหาเราในอนาคต
เราควรมีความสุข และพึงพอใจกับความสุขอยู่ในปัจจุบัน

ชีวิตของมนุษย์ทุกคน ต้องมีสิ่งท้าทายเข้ามาอยู่ตลอดเวลา ทั้งอุปสรรคต่างๆ หรือบททดสอบชีวิตอันยากเข็ญ
แต่ในที่สุดเราก็จะต้องก้าวผ่านไป อุปสรรคกับชีวิตเป็นของคู่กัน
ดังนั้น เป็นหน้าที่ของเรา ที่ต้องความสุขและความพึงพอใจจากการเดินทางบนถนนแห่งชีวิตนี้ซึ่งจะทำให้ชีวิตมีความสุข

มากกว่าที่จะรอให้ถึงจุดหมายปลายทางก่อน
แล้วถึงจะมีความสุขได้

เริ่มหยุดพูดกับตัวเองเสียทีว่า
ถ้าฉันลดน้ำหนักได้สัก 5 กิโล ฉันถึงจะมีความสุข
ถ้าฉันได้แต่งงาน ฉันถึงจะมีความสุข
ถ้าผมได้ซื้อบ้าน ผมถึงจะมีความสุข
ถ้าผมได้เกิดเป็นลูกคนรวย ผมถึงจะมีความสุข
ถ้าคุณหยุดพูดถึงสิ่งเหล่านี้ได้ ชีวิตของคุณก็จะมีความสุข
และคุณจะรู้สึกพึงพอใจกับชีวิต


ตอบคำถาม ต่อไปนี้
1. บอกชื่อคน 3 คน ที่รวยที่สุดในโลก
2. บอกชื่อนางงามจักรวาล 3 คนล่าสุด
3. บอกชื่อ ผู้ที่ได้รับรางวัลโนเบล 3 คนล่าสุด
4. บอกชื่อนักแสดงนำชาย 3 คนล่าสุด ที่ได้รับรางวัลออสการ์

นึกไม่ออกใช่ไหม? ไม่ใช่เรื่องแปลก
ไม่มีใครหรอกที่จะจดจำคนเหล่านี้ได้ทั้งหมด
คนที่ได้รับการยกย่องสรรเสริญ ก็ล้วนล้มหายตายจากไปตามกาลเวลา
รางวัลต่างๆ เมื่อวางไว้นาน ก็จะถูกฝุ่นจับ แม้แต่ผู้ชนะก็จะถูกลืมในไม่ช้า


ตอบคำถาม ต่อไปนี้
1. บอกชื่ออาจารย์ 3 ท่านที่เคยช่วยเหลือคุณในเรื่องการเรียน
2. บอกชื่อเพื่อน 3 คนที่ช่วยเหลือคุณในยามที่คุณต้องการ
3. นึกถึงคน 3 คนที่ทำให้คุณรู้สึกว่า คุณได้เป็นคนพิเศษ
4. บอกชื่อคน 3 คนที่คุณอยากใช้เวลาด้วย

นึกออกง่ายกว่าใช่ไหม
? นั่นเป็นเพราะว่า
คนที่มีความหมายต่อชีวิตคุณ ไม่ได้เป็นคนที่ต้องเป็นที่สุด
ไม่ได้มีเงินมากที่สุด ไม่ต้องได้รับรางวัลที่ยิ่งใหญ่ที่สุด
เพราะยังมีคนใกล้ตัวคุณอีกหลายคน

ที่ห่วงใยคุณ คอยให้การดูแลคุณ

และเวลาที่มีอะไรเกิดขึ้น ก็จะคอยอยู่เคียงข้างคุณ

...ไม่มีช่วงเวลาไหนที่จะมีความสุข

มากกว่าช่วงเวลา ณ ปัจจุบันนี้..
ใช้ชีวิตให้มีความสุขกับช่วงเวลาปัจจุบัน


vn;ลอกเขามาอีกแหละ ฮ่าๆๆ แต่อืมจริงนะ

วันพฤหัสบดีที่ 22 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

คุณมีเวลาให้ลูกบ้างหรือไม่

อุทาหรณ์..สำหรับคนที่ไม่มีเวลาให้ลูก
เอามาจากในอินเตอร์เน็ต
มันอยู่ในหนังสืองานศพของเด็กชายคนหนึ่ง
พ่อเค้าเขียนไว้..........

"ผมมีเงินซื้อบ้านหลังใหญ่ให้ลูก...แต่ไม่มีเวลาอยู่บ้านกับลูก
ผมมีเงินซื้อหนังสือนิทานดีๆให้ลูก...แต่ไม่มีเวลาอ่านให้เค้าฟัง
ผมมีเงินซื้ออาหารดีๆให้ลูก....แต่ไม่มีเวลาอยู่ตอนที่เค้าทาน
ผมมีเงินซื้อของเล่นดีๆให้ลูก...แต่ไม่มีเวลาเล่นกับเค้า
ผมมีเงินซื้อเสื้อผ้าแพงๆให้ลูก...แต่ไม่มีโอกาสได้เห็น(เห็นแต่ตอนเค้าใส่ชุดนอนเวลาเค้าหลับ)
ผมยอมรับว่าเค้าคือคนสำคัญ...แต่ช่วงเวลานั้นผมคิดว่างานสำคัญกว่า
จนกระทั่งถึงวันที่เค้าจากไป...ผมร้องไห้จนน้ำตาไม่มีจะไหล
ในวันที่ผมมีเวลาให้กับเค้า...แต่เค้ากลับไม่เหลือเวลาให้ผมแล้ว"


วันพฤหัสบดีที่ 1 กรกฎาคม พ.ศ. 2553

บางเรื่องที่เราไม่รู้ ̣(แต่บางครั้งก็ไม่รู้เหมือนกันว่ารู้แล้วได้ประโยชน์อะไร ฮ่าๆๆ)

บางที อาจจะมีอะไรบางอย่างที่เราไม่รู้ เช่น




  • โคคาโคลา เดิมมีสีเขียว
  • ชื่อที่มีคนใช้มากที่สุดในโลก คือ โมฮัมมัด
  • ชื่อของทุกทวีปมีตัวอักษรภาษาอังกฤษตัวแรกกับตัวสุดท้ายเป็นตัวเดียวกัน
  • กล้ามเนื้อที่แข็งแรงที่สุดในร่างกายของเราคือลิ้น
  • ชาวอเมริกันมีเครดิตการ์ดโดยเฉลี่ยคนละ 2 ใบ
  • คำว่า TYPEWRITER เป็นคำที่ยาวที่สุดที่พิมพ์โดยใช้แป้นพิมพ์แถวเดียวกัน





· ผู้หญิงกะพริบตาประมาณ 2 เท่าของผู้ชาย

· คุณไม่สามารถฆ่าตัวตายโดยการกลั้นลมหายใจ

· คุณไม่สามารถเลียข้อศอกตัวเองได้

· ผู้คนจะอวยพรกันว่า 'Bless you' เมื่อเกิดการจาม เนื่องจากการจามแต่ละครั้ง จะทำให้หัวใจหยุดเต้นประมาณ 1 มิลลิวินาที

· ด้วยสรีระของหมู ทำให้มันไม่สามารถมองท้องฟ้าได้

· ประโยค 'sixth sick sheik's sixth sheep's sick' ถือว่า เป็นประโยคที่ทำให้ลิ้นพันกันมากที่สุด ในภาษาอังกฤษ

· ถ้าจามแรงมากเกินไป อาจทำให้คุณซี่โครงหักได้ แต่ถ้าคุณกลั้นการจามไว้ จะทำให้หลอดเลือดที่ศีรษะหรือคอโป่งออกจนเสียชีวิตได้

· ตัวคิงบนหน้าไพ่เป็นตัวแทนกษัตริย์ในประวัติศาสตร์ ได้แก่ คิงโพดำ คือกษัตริย์เดวิด
คิงดอกจิก คือกษัตริย์อเล็กซานเดอร์หาราช คิงโพแดง คือกษัตริย์ชาลีมาน คิงข้าวหลามตัด คือ กษัตริย์จูเลียส ซีซาร์





· ผลคูณ 111,111,111 x 111,111,111 = 12,345,678,987,654,321

· ถ้ารูปปั้นในสวนสาธารณะเป็นรูปคนขี่ม้าที่ยกสองขาหน้าขึ้นบนอากาศ แสดงว่าคนนั้นเสียชีวิตในสงคราม แต่ถ้าม้ายกขาหน้าขึ้นข้างเดียว คนนั้นเสียชีวิตจากการบาดเจ็บในสงคราม และถ้าม้ายืนอยู่บนขาทั้งสี่ คนผู้นั้นเสียชีวิตเองตามธรรมชาติ

· อุปกรณ์ที่ใช้กันทั่วไป อย่างเสื้อกันกระสุน บันไดหนีไฟ ที่ปัดน้ำฝน และเครื่องพิมพ์เลเซอร์ ประดิษฐ์ขึ้นโดยสุภาพสตรี

· คำถาม อาหารอย่างเดียวที่ไม่เคยเสีย คืออะไร
คำตอบ - น้ำผึ้ง





· จรเข้ไม่สามารถแลบลิ้นออกมาจากปากได้

· ทากสามารถจำศีลได้นาน 3 ปี

· หมีขั้วโลกทุกตัวถนัดซ้าย

· สายการบินอเมริกันแอร์ไลน์สามารถประหยัดเงินไปได้ 40,000 เหรียญ จากการตัดมะกอก 1 ลูก ออกจากเมนูสลัดที่เสิร์ฟในที่นั่งชั้นหนึ่ง

· ผีเสื้อชิมรสอาหารด้วยตีนของมัน


· ช้างเป็นสัตว์ชนิดเดียวที่ไม่สามารถกระโดดได้

· เป็นเวลา 4000 ปีมาแล้ว ที่คนเราไม่มีสัตว์เลี้ยงชนิดใหม่เพิ่มขึ้นมา

· โดยทั่วไป คนจะกลัวแมงมุมเกินกว่าความน่ากลัวของมัน

· เชคสเปียร์ เป็นผู้สร้างคำว่า 'assassination' และ 'bump'.

· Stewardesses เป็นคำที่ยาวที่สุด ที่พิมพ์สัมผัสโดยใช้แต่มือซ้าย

· ถ้าไม่ถูกยาฆ่าแมลง มดจะตกลงพื้นโดยลงทางด้านขวา





· เก้าอี้ไฟฟ้าประดิษฐ์ขึ้นโดยทันตแพทย์

· การบีบตัวของหัวใจของคน สามารถทำให้เกิดความดันเพื่อขับเลือดไปทั่วร่างกาย แรงดันนี้สามารถทำให้เลือดให้พุ่งไปได้ไกล 30 ฟุต

· หนูขยายพันธุ์ได้อย่างรวดเร็ว ในเวลา 18 เดือน หนู 2 ตัว สามารถทำให้เกิดลูกหลานได้มากกว่า 1 ล้านตัว



· การสวมหูฟังเพียง 1 ชั่วโมง จะทำให้จำนวนแบคทีเรียในหูเพิ่มขึ้น 700 เท่า

· ไฟแช็คประดิษฐ์ขึ้นก่อนหน้าไม้ขีดไฟ

· ลิปสติกส่วนใหญ่จะมีส่วนผสมของเกล็ดปลา

· นอกจากลายพิมพ์นิ้วมือแล้ว ลายพิมพ์ลิ้นของแต่ละคนก็แตกต่างกัน

เจ๋งสุดคืออันนี้

· สุดท้าย 99% ของคนที่อ่านเรื่องนี้ จะพยายามเลียข้อศอกตัวเอง