ทฤษฎีแม่นกเลี้ยงลูกนก
ทุกครั้งที่แม่นกได้อาหารมาป้อนลูกนก
ลูกนกที่อยู่ในรังตัวที่ “แหกปาก” ร้องได้ดัง “โก่งคอ” ได้สูงจะได้กิน
ส่วนตัวที่คอพับคออ่อนแหกปากร้องก็ไม่เป็นจะอด
นานวันเข้าตัวแหกปากจะโตวันโตคืน
ส่วนตัวที่แหกปากไม่เป็นก็เหี่ยวเฉาตาย
นี่เป็นเหตุที่ว่าในลูกนกสี่ห้าตัว จะมีตัวลอดเพียงสองสามตัว
ส่วนที่เหลือก็ตายไป และที่รอดก็คือ
“พวกที่แหกปากร้อง”
ถามว่า “เป็นความผิดของแม่นกหรือ?”
ถามว่า “ลูกนกที่แหกปากไม่เป็นผิดหรือ?”
“ถ้าไม่ผิดทำไม่เขาต้องตาย?”
มนุษย์กับสัตว์มี “สมอง” เหมือนกัน แต่สัตว์มีเพียง “สัญชาติญาณ”
ส่วนมนุษย์ที่เขาเรียกว่า “สัตว์ประเสริฐ”
นอกจากมี “สัญชาติญาณ” แล้วยังมี “สติ” “สัมปชัญญะ” สามารถ “วิเคราะ” “พิจารณา” สามารถ “วางระเบียบ กฎเกกณฑ์” สามารถแบ่งสันปันส่วนให้ลูกนกได้อาหารครบทุกตัว
ถามว่า “จริงหรือ?”
ณ โรงพยาบาลสถานเลี้ยงเด็กทารกแห่งหนึ่ง
เด็กคนไหน “แหกปากร้อง” นางพยาบาลก็จะเอาขวดนมยัดใส่ปาก
ส่วนเด็กที่นิ่ง นางพยาบาลก็คิดว่า “มันคงยังไม่หิว” “มันก็ดีอยู่แล้วนี่” “ปล่อยมันไป”
ผลของการ “อดทน” คือ “อดแดก”
ณ บริษัทแห่งหนึ่ง.............(จินตนาการต่อกันเอาเองครับ คงพอเดาตอนจบได้)
ผลของการ “อดทน” คือ “อดแดก”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น