วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ถึงคนที่แต่งงานแล้ว...และคนที่ยังไม่ได้แต่งงาน .

เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อ่านแล้วกินใจมาก
ลองอ่านและซึมซาบความรู้สึกอย่างช้า ๆ

'
เมื่อเธอต้องการหย่าขาดจากชั้นไป....เธอควรเป็นคนที่จูงมือชั้นออกไป '

ในวันแต่งงานของผม ผมจูงมือภรรยาของผมในอ้อมแขนรถแต่งงานจอดหน้าที่พักของเรา
เพื่อนเจ้าบ่าวบอกผมว่า ผมควรจะอุ้มเธอเข้าไปในบ้าน
ดังนั้นผมจึงทำตาม
เธอเขินอายในอ้อมแขนผม
ผมช่างเป็นเจ้าบ่าวที่มีความสุขที่สุดในโลก.... นี่เป็นเรื่องที่ผ่านมาแล้วสิบปี...
ในวันถัดๆ มาทุกอย่างก็เหมือนเดิม

เรามีลูกด้วยกัน...ผมทำงานอย่างหนักเพื่อที่จะหาเงินมาจุนเจือครอบครัว...
เมื่อเราเริ่มมีฐานะที่ดีขึ้น...
ความห่างของเราก็เพิ่มขึ้นเช่นกัน...
ทุกๆเช้าเราออกจากบ้านไปด้วยกันแล้วก็ถึงบ้านเวลาเดียวกัน
ลูกเราเรียนที่โรงเรียนใกล้บ้าน
ดูเหมือนความรักของเราช่างน่าอิจฉายิ่งนัก...

แต่แล้ว
ความสงบสุขก็เริ่มเปลี่ยนแปลงอย่างมิได้คาดหมาย...

เจนเข้ามาในชีวิตของผม .... ผมยืนอยู่ที่ระเบียงบ้าน... เจนเข้ามาสวมกอดผมจากด้านหลัง..
หัวใจผมเต้นแรงด้วยความรัก...

ที่นี่...เป็นอพาร์เมนท์ที่ผมซื้อให้เธอ...
เธอบอกว่า คุณเป็นผู้ชายที่ผู้หญิงทุกคน ถวิลหา....

คำพูดของเธอทำให้ผมนึกถึงภรรยาผม...
ตอนที่เราแต่งงานกันใหม่ ๆ ..เธอบอกว่า
วันที่คุณประสบความสำเร็จ
ผู้ชายอย่างคุณจะมีแต่ผู้หญิงวิ่งเข้ามาหา...

ผมเริ่มรู้สึกลังเล...
ผมรู้ว่าผมกำลังทรยศภรรยาผม...
แต่ผมก็ได้ทำลงไปแล้ว ...

ผมปลีกตัวออกจากเจนวันนี้คุณไปเลือกเฟอร์นิเจอร์เองแล้วกันน๊ะ ผมต้องเข้าออฟฟิศ ...

แน่นอน... เธอไม่ค่อยพอใจนัก เพราะผมสัญญากับเธอว่าเราจะไปด้วยกัน...

ในตอนนั้น...ความรู้สึกถึงการหย่าร้างเริ่มวิ่งเข้ามาในความคิดผม....
ทั้งที่จริงๆแล้วผมไม่เคยมีความคิดนี้เลยแม้แต่ครั้งเดียว
แต่ผมก็พบว่าเป็นเรื่องยากที่จะบอกกับภรรยาของผม....
ไม่ว่าผมจะพูดกับเธอดีสักเพียงใด...
เธอจะต้องเจ็บปวดใจอย่างแน่นอน...
จริง ๆ แล้วเธอเป็นภรรยาที่ดีมาก.. ทุก ๆ
เย็นเธอจะวุ่นวายกับการทำอาหาร..ในขณะที่
ผมนั่งอยู่หน้าทีวี ทานอาหารเสร็จเราก็นั่งดูทีวีด้วยกัน...

หรือ... ถ้าผมจะเลือกเป็น...นั่งอยู่หน้าจอคอมพิวเตอร์....มองเรือนร่างอันงดงามของเจน...
ช่างเป็นอะไรที่หน้าฝันถึงเสียจริง

วันนึงผมพูดทีเล่นทีจริงกับภรรยาของผมว่าจะเธอจะทำยังงัยถ้าเราหย่ากัน....
เธอจ้องมองผมอย่างไม่เชื่อในสิ่งที่ได้ยิน...และเธอก็ไม่ได้ตอบว่าอะไร..
เธอมั่นใจว่าการหย่าเป็นเรื่องที่ไกลตัวเธอมาก..
ผมนึกภาพไม่ออกเลยว่าหากเธอรู้ว่าเรื่องที่ผมกำลังพูดอยู่นั้นเป็นเรื่องจริง... เธอจะเป็นอย่างไร

วันนึงภรรยาผมมาที่ออฟฟิศ...สวนทางกับเจนที่เพิ่งจะออกไปพอดี...
พนักงานทุกคนทำหน้าตาเลิกลัก... เหมือนกำลังพยายามซ่อนอะไรบางอย่างจากเธอ....
เธอเหมือนจะรับรู้มันได้... แต่เธอก็ยิ้มน้อย ๆกับพนักงานทุกคน....
แต่ผมก็สังเกตุเห็นแววตาที่เจ็บปวดของเธอภายใต้รอยยิ้มนั้น

ในที่สุด...เจนก็บอกกับผมว่า...หย่ากับเธอน๊ะ..แล้วเราอยู่ด้วยกัน..ผมพยักหน้า....

ผมจะลังเลอีกต่อไปไม่ได้อีกแล้ว....ผมตัดสินใจบอกภรรยาผมในอาหารค่ำ..
ผมมีอะไรจะบอกคุณ... เธอนั่งทานอาหารอย่างเงียบๆ...
ผมสังเกตุเห็นแววตาอันเจ็บปวดของเธอ...มันทำให้ผมพูดในสิ่่งที่ผมต้องการพูดไม่ออก..
แต่ท้ายที่สุดผมก็พูดออกไป...

ผมต้องการหย่า.. .

เธอดูไม่ตกใจกับสิ่งที่ผมเพิ่งจะพูดออกไปเลย...
ผมย้ำกับเธออีกครั้ง...เธอเขวี้ยงตะเกียบในมือทิ้ง...
แล้วตะโกนใส่หน้าผมว่า...คุณมันไม่ใช่ลูกผู้ชาย...เราไม่ได้คุยกันอีกเลยคืนนั้น...

เธอร้องไห้อย่างหนัก..

ผมรู้ว่าเธออยากรู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตแต่งงานของเรา...
แต่ผมเองไม่สามารถหาคำตอบให้กับตัวเองได้...เป็นเพราะใจผมได้ให้เจนไปหมดแล้วงั้นเหรอ...
ผมคงไม่สามารถบอกเธออย่างนั้นได้..มันจะทำให้ผมรู้สึกผิดมากขึ้นไปอีก...

ผมร่างสัญญาการหย่าร้างขึ้น...ระบุว่า..เธอเป็นเจ้าของบ้าน...
ทุกๆ อย่างในบ้าน ทั้งรถ... หุ้นบริษัท 30% ผมยกให้เธอหมด....

เธอเหลือบมองกระดาษที่ผมร่างขึ้นแล้วฉีกมันทิ้ง..
มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น...
ผู้หญิงที่ผมอยู่ด้วยมาเป็นระยะเวลาสิบปีกลายเป็นคนแปลกหน้ากันภายในหนึ่งวัน...
ผมไม่สามารถคืนคำที่ผมพูดไปได้...

เธอร้องไห้ด้วยความเสียใจอย่างที่สุด...
สำหรับผมแล้ว...การร้องไห้ของเธอเหมือน
เป็นการปลดปล่ยยความสับสนของตัวผมเอง...

หลังจากที่ผมกลุ้มใจกับการตัดสินใจครั้งนี้ของผม
...
ในที่สุด...มันก็เป็นรูปธรรมขึ้นมาจริงๆ เสียที

คืนนั้น...ผมกลับถึงบ้านค่อนข้างดึก...
เห็นเธอเขียนอะไรบางอย่างบนโต๊ะ. ..ผมหลับไปอย่างรวดเร็วด้วยความเพลีย... ผมตื่นขึ้นมาอีกทีแล้วพบว่า...

เธอเขียนเงื่อนไขการหย่าร้างว่าเธอไม่ต้องการสิ่งใดจากผม...
แต่เธอต้องการให้ผมให้เวลาเธอหนึ่งเดือนเพื่อตั้งตัวสำหรับการหย่า...
และในช่วงระยะเวลาหนึ่งเดือนนั้นทุกอย่างต้องดำเนินไปตามปกติ...
ด้วยเหตุผลที่ว่าเธอต้องการให้ลูกจบการศึกษาซึ่งกำลังจะมาถึงเสียก่อน..
เธอไม่อยากให้ลูกต้องเห็นความล้มเหลวในการแต่งงานของพ่อแม่ก่อนเวลานั้นจะมาถึง...

รัชต์..คุณจำได้มั๊ย....วันที่เราแต่งงานกัน...คุณประคองชั้นไว้ในอ้อมกอดในวันที่เราเข้าเรือนหอ..
ผมพยักหน้า..นั่นเป็นความทรงจำที่ดีที่สุดของชั้น...

ชั้นมีเรื่องขอร้อง...
ชั้นอยากให้คุณประคองชั้นไว้ในอ้อมกอดจากห้อง
นอนไปถึงด้านล่างทุกวันนับจากวันนี้ไปจนถึงวันที่เราต้องแยกจากกัน
ผมยอมรับด้วยความเต็มใจ...ผมรู้ดีว่า เธอคิดถึงวันดีๆ เหล่านั้น...
และเธอต้องการให้ชีวิตการแต่งงานเธอจบลงด้วยความทรงจำที่ดี

ผมบอกเจนถึงเงื่อนไขที่ภรรยาผมตั้งขึ้นในการหย่าร้าง...
เธอหัวเราะถึงความไร้สาระของเงือนไข....
ภรรยาผมบอกกับผมว่า ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตาม
..
เธอจะต้องยอมรับผลของการหย่าร้างให้ได้...

คำพูดของเธอทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดเป็นอย่างยิ่ง...

เราไม่ได้ถูกต้องตัวกันเลยนับแต่วันที่ผมขอเธอหย่า
..
ความจริงเหมือนจะเป็นคนแปลกหน้าต่อกันด้วยซ้ำไป...

พอถึงวันที่ผมประคองเธอลงจากห้องวันแรก...มันจึงทำให้ผมทำตัวไม่ถูก...
ลูกชายเราตบมือแล้วพูดด้วยความดีใจว่า

ว้าว...วันนี้พ่ออุ้มแม่ลงจากห้องด้วย....มันทำให้ผมรู้สึกเจ็บปวดมากขึ้น......!
เธอบอกว่าอย่าบอกลูกเราถึงเรื่องของเรา...ผมพยักหน้า...ด้วยความรู้สึกผิดอย่างเต็มเปี่ยม...
ผมขับรถไปส่งเธอที่ป้ายรถเมล์..แล้วเลยไปออฟฟิศ

วันถัดมา...ความรู้สึกขัดเขินเริ่มน้อยลงไป...เธอซบบนอกผม...
เราใกล้ชิดกันมากจนผมได้กลิ่นน้ำหอมของเธอ...
ผมถึงได้ตระหนักว่า.....เธอไม่ใช่เด็กสาวอีกต่อไปแล้ว...เธอเริ่มมีริ้วรอยบนใบหน้ามากขึ้น

ในวันที่สาม...เธอกระซิบบอกผมว่าสวนกำลังรื้ออยู่ให้เดินระวังด้วย...

ในวันที่สี่...มันช่างเหมือนกับว่าเราเป็นคู่รักที่หวานชื่นมาก...ภาพของเจนเริ่มเลือนลางไป...

วันที่ห้าและหก..เธอคอยเตือนผมในเรื่องเล็กๆน้อยๆ เช่นเธอวางเตารีดไว้ที่ไหน.
ผมควรจะระวังอะไรบ้างตอนทำอาหาร...และอื่นๆ อีกมากมาย...
ความสนิทสนมของเราเพิ่มมากขึ้นทุกที...ผมไม่ได้บอกเจนถึงเรื่องนี้เลย...
ผมรู้สึกว่าผมอุ้มเธอง่ายขึ้นทุกวันโดยไม่ได้สังเกตถึงความเปลี่่่ยนแปลงในตัวเธอเลย...

หรือบางทีคงเป็นเพราะผมแข็งแรงขึ้น...แต่แล้วผมก็พบว่ามันไม่ใช่อย่างที่ผมคิด...
เป็นเพราะว่าเธอผอมลงจนไม่สามารถใส่เสื้อผ้าเดิมได้นั่นต่างหากที่ทำให้ผมอุ้มเธอได้ง่ายขึ้น ผมรู้ดีว่าเธอพยายามซ่อนความขมขื่นเอาไว้...
ลูกของเราร้องขึ้นว่า พ่อได้เวลาอุ้มแม่แล้วน๊ะ..
สำหรับลูกแล้ว...การได้เห็นพ่ออุ้มแม่เป็นภาพที่เขามีความสุขที่สุด....
เธอเอื้อมมือไปกอดลูกไว้แน่น...ผมทนมองภาพนั้นไม่ได้จริง ๆ
ผมกลัวว่าผมจะเปลี่ยนใจในวินาทีสุดท้าย

และแล้ววันสุดท้ายก็มาถึง....ผมอุ้มเธอไว้ในอ้อมกอด.. เท้าผมแทบจะก้าวไม่ออก......เธอบอกกับผมว่า...

ความจริงแล้ว...ชั้นอยากให้คุณอุ้มชั้นไปจนเราแก่เฒ่า .. ผมกอดเธอแน่น...และผมก็ตระหนักว่า..
ชีวิตคู่ของเราขาดการดูแลเอาใจใส่ซึ่งกันและกัน
..
ผมขึ้นรถทันทีเพื่อจะไปยังจุดหมายใหม่.. ผมลังเลเล็กน้อย..
แต่ในที่สุดแล้ว..ผมก็มาพบเจนจนได้.. เธอเปิดประตูออก...ผมบอกเธอว่า
เจน..ผมขอโทษ...ผมจะไม่หย่า....
เธอมองหน้าผม แตะหน้าผากผม.. คุณสบายดีหรือเปล่า
เจน...ผมขอโทษ...ผมขอโทษจริง ๆ...ผมจะไม่หย่ากับภรรยาผม...ชีวิตการแต่งงานของเราน่าเบื่อมันเป็นเพราะผมไม่ได้ให้ความสำคัญกับรายละเอียดเล็กน้อย...
ผมขาดการเอาใจใส่ในตัวเธอ....มันไม่ได้หมายความว่าเราไม่ได้รักกัน....
ตอนนี้ผมเข้าใจแล้ว.....ว่าตั้งแต่วันที่ผมอุ้มเธอเข้าบ้าน .. เธอมีลูกให้ผม...ผมควรจะประคองเธอไปจนแก่...
เจนตบหน้าผมอย่างแรงและกระแทกประตูใส่ผม.. ..

ระหว่างทางกลับบ้านผมแวะร้านดอกไม้....พนักงานขายดอกไม้ถามว่าจะเขียนว่าอะไร ...ผมให้เธอเขียนว่า...

ผมจะอุ้มคุณทุกเช้าจนกว่าเราจะแก่


วันอังคารที่ 15 มิถุนายน พ.ศ. 2553

ดวงปีขาล ๒๕๕๓ ดูเดือนชงกัน ฮะกัน

ท่านที่เกิดปีขาลรอบอายุ 36 ปี (พ.ศ.2517)

ดวงชะตาโดยรวม

เนื่องจากปี 2553 นี้ เป็นปีที่ตรงทับปีเกิด ดวงชะตาจะไม่ใคร่ดี หลายเรื่องที่ตั้งใจจะทำ อาจไม่สำเร็จ หรือไม่ราบรื่นเท่าที่ควร จะมีปัญหา อุปสรรครังควานเสมอ ดังนั้นในการทำงาน หรือธุรกิจการค้าใดๆ ก็ตามในปีนี้ ควรทำด้วยความสุขุมรอบคอบ ตัดสินใจให้ละเอียด เพราะจะส่งผลเสียหายหนัก โชคยังดียังมี
ดาวมงคลคอยช่วยเหลือบ้าง ประกอบกับ หากท่านมีความตั้งใจ มีความขยันอดทน ไม่ท้อ ก็จะผ่านพ้นอุปสรรคต่างๆ และกิจการเดินหน้าไปได้ด้วยดี

ด้านการเงินท่านไม่ค่อยดี ไม่ควรเล่นการพนันเสี่ยงโชค ห้ามลงทุนในธุรกิจที่เสี่ยงต่อกฎหมาย เพราะนอกจากจะทำให้สูญเสียเงินแล้วยังอาจต้องโทษคดีอาญาอีกด้วย ที่สำคัญท่านมีเกณฑ์จะพบกับปัญหาขาดสภาพคล่อง หากมีการใช้จ่ายแบบมือเติบโดยไม่คิดหน้าคิดหลังให้ดี

ด้านครอบครัว ปีนี้ท่านควรหาเวลาอยู่ร่วมกับสมาชิกในครอบครัวให้มากขึ้น เพื่อจะได้กระชับความสัมพันธ์ การพูดคุย และสื่อสารที่ดีจะนำมาซึ่งความสงบสุขในครอบครัว นอกจากนี้ช่วงต้นปีท่านควรหาเวลาไปไหว้พระตามวัดต่างๆ หมั่นทำบุญ ตักบาตร ถือศีล ทำสมาธิ และปฎิบัติธรรม ผลบุญก็จะช่วยให้การงานราบรื่นทุกสิ่งสมหวัง

ด้านการงาน

การงานและธุรกิจปีนี้จะพบความก้าวหน้า เนื่องจากในชะตามีผู้อุปถัมภ์ อีกทั้งได้รับพลังมงคลจากดาวมงคล จึงนับเป็นโอกาสดีของท่านในการสร้างผลงาน ขยายฐานการค้า เพิ่มยอดขาย หากยิ่งท่านเพิ่มความขยันมุมานะและใช้สติ ปัญหาและอุปสรรคต่างๆที่มีก็จะผ่านไปได้ด้วยดี โดยเดือนที่ท่านจะมีโชคทางด้านการงานและการลงทุน คือ ช่วง14 ก.พ. – 15 มี.ค./ 12 มิ.ย. – 11 ก.ค./ 8 ก.ย. – 7 ต.ค. / 8 ต.ค. – 5 พ.ย. และ ช่วง 4 ม.ค. -2 ก.พ. 2554
ส่วนช่วงที่งานของท่านจะประสบปัญหาคือ ช่วง 14 เม.ย. – 13 พ.ค. / 10 ส.ค. - 7 ก.ย. / และช่วง 6 พ.ย. – 5 ธ.ค.53 การดำเนินเอกสารสัญญาเกี่ยวกับงานในช่วงนี้ ควรระวังเป็นพิเศษ อีกทั้งควรระวังความผิดพลาดในงานและความขัดแย้งระหว่างบุคคล สำหรับการร่วมงานหรือลงทุนในปีนี้ ช่วง 6 เดือนแรก ไม่ค่อยประสบผลสำเร็จและมีกำไร แต่ในช่วงครึ่งปีหลังจะเห็นกำไรมากขึ้น ดังนั้นการลงทุนควรคำนึงถึงเป้าหมาย ตลาดและตัวสินค้า ใช่ว่าหลงเชื่อตามคำชักชวนซึ่งจะทำให้ท่านเจ็บตัว โดยต้องหลีกเลี่ยงช่วง 14 ก.พ. – 15 มี.ค. / 14 เม.ย. – 13 พ.ค. และช่วง 10 ส.ค. - 7 ก.ย.53 นอกจากนี้ต้องระวังลูกน้องก่อความเดือดร้อนหรือทุจริตทางบัญชี

ด้านโชคลาภ

เรื่องการเงินปีนี้นับเป็นดวงปานกลาง แม้รายรับทางตรงหรือเงินพิเศษจากเงินเพิ่มเติมหรือเงินจากโชคลาภนับว่ายังมี แต่ท่านก็ควรใช้จ่ายประหยัด เพราะแม้ว่าจะมีรายรับมาก แต่ก็มีรายจ่ายอยู่สูงมากเช่นกัน ดังนั้นการใช้จ่ายต่างๆ ท่านจึงต้องคิดให้รอบคอบ และชั่งน้ำหนักทั้งผลดีและผลเสีย อย่ามองแต่ผลดีอย่างเดียว เพื่อท่านจะได้มีเงินเหลือไว้ใช้ยามฉุกเฉิน ดีกว่าใช้เพลินจนขาดสภาพคล่อง และต้องระวังจะติดขัดหนักในช่วง14 พ.ค. – 11 มิ.ย./ 10 ส.ค. - 7 ก.ย./ และช่วง 6 พ.ย. – 5 ธ.ค.53 ที่ห้ามให้กู้ยืมเงินหรือรับค้ำประกัน ห้ามเล่นการพนันเสี่ยงโชค ห้ามลงทุนในการค้าที่หมิ่นเหม่ต่อการผิดกฎหมาย และห้ามโลภมากในลาภที่มิใช่ของท่าน
ส่วนช่วงที่การเงินของท่านไหลลื่นคล่องตัวดีได้แก่ ช่วง 16 มี.ค. – 13 เม.ย. /12 มิ.ย. – 11 ก.ค. / 12 ก.ค. – 9 ส.ค./ 8 ก.ย. – 7 ต.ค. / 8 ต.ค. – 5 พ.ย./ 6 ธ.ค. 2553 – 3 ม.ค. 2554

ด้านครอบครัว

ดวงครอบครัวไม่ค่อยดี ดังนั้นต้นปีท่านควรหาเวลาไหว้พระไหว้เจ้าขอพระจะช่วยคุ้มครองให้คนในบ้านพ้นภัย และเนื่องจากถูกจัดให้เป็นปีชงจึงควรระวังเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง อาจจะประสบภัยบาดเจ็บ อีกทั้งควรระวังสุขภาพของผู้สูงอายุในบ้าน โดยเฉพาะช่วง 14 ก.พ. – 15 มี.ค./ 14 พ.ค. – 11 มิ.ย./ 10 ส.ค. - 7 ก.ย. และช่วง 6 พ.ย. – 5 ธ.ค.53 ทว่าหากปีนี้มีการย้ายบ้านย้ายถิ่นที่อยู่ก็จะเกิดพลังมงคล ช่วยสลายพลังอัปมงคงได้ ในส่วนญาติมิตรเพื่อนฝูงปีนี้เป็นดวงพอใช้ มีสิ่งที่ควรระวังคือ คำพูดคำจาของท่านที่จะไปกระทบผู้อื่นโดยไม่ตั้งใจ และอาจเป็นการก่อภัยมืดให้กับตัวเองอย่างไม่รู้ตัว โดยเฉพาะท่านควร ระมัดระวังช่วง 14 เม.ย. – 13 พ.ค. / 10 ส.ค. - 7 ก.ย./ 8 ต.ค. – 5 พ.ย. และช่วง 6 พ.ย. – 5 ธ.ค.53

ด้านความรัก

ดวงความรักของเจ้าชะตาในปีนี้ดูจะไม่ค่อยคงที่ บางครั้งทำหยิ่งบางครั้งก็เอาอกเอาใจจนตัวเองและใครๆก็สับสน ยิ่งโดยเฉพาะช่วงที่ไม่เกื้อหนุนได้แก่ ช่วง 16 มี.ค. – 13 เม.ย./ 14 พ.ค. – 11 มิ.ย. / 10 ส.ค. - 7 ก.ย. และช่วง 6 พ.ย. – 5 ธ.ค.53 ที่จิตใจท่านต้องหนักแน่น อย่าหูเบาฟังคนนินทายุยงจะเป็นเหตุก่อปากเสียงโดยไม่จำเป็น หลีกเลี่ยงการยุ่งเกี่ยวกับปัญหาครอบครัวผู้อื่นและงดเที่ยวสถานบันเทิงเริงรมย์ที่อาจทำให้ติดโรคและตัวท่านต้องเดือดร้อน

ด้านสุขภาพ

ปีนี้สุขภาพแข็งแรง แต่ควรระวังโรคกระเพาะและลำไส้ อาหารการกิน และการดื่มสุราควรอยู่ในปริมาณที่เหมาะสม การออกงานสังสรรค์ควรมีสติ อย่าปล่อยให้เหล้าพาไปจนเสียคน โดยเฉพาะช่วง14 พ.ค. – 11 มิ.ย./ 10 ส.ค. - 7 ก.ย. และช่วง 6 พ.ย. – 5 ธ.ค.53 ที่ท่านควรจะมีสติเป็นพิเศษ และควรระวังอุบัติเหตุจากเครื่องมือ – เครื่องจักร การเดินทางทั้งทางใกล้ไกลให้ระวังภัยบาดเจ็บจากเหตุการณ์ที่คาดไม่ถึง



แนวคิดพื้นฐานเรื่องธาตุของจีน

ถือว่าธาตุทั้งหมดมีห้าธาตุ คือ ดิน ทอง น้ำ ไม้ ไฟ โดยธาตุดินจะเป็นธาตุที่ส่งเสริมธาตุทอง ธาตุทองส่งเสริมธาตุน้ำ ธาตุน้ำส่งเสริมธาตุไม้ ธาตุไม้ส่งเสริมธาตุไฟ

ตรงข้ามก็คือพิฆาต หรือธาตุที่ขัดแย้งกัน คือทองพิฆาตไม้ ไม้พิฆาตดิน ดินพิฆาตน้ำ น้ำพิฆาตไฟ ไฟพิฆาตทอง

12 นักษัตร ครองธาตุต่างๆทั้ง 5 ธาตุ ดังนี้

ชวด (ธาตุน้ำ) ฉลู (ธาตุดิน) ขาล (ธาตุไม้) เถาะ (ธาตุไม้) มะโรง(ธาตุดิน) มะเส็ง(ธาตุไฟ) มะเมีย(ธาตุไฟ) มะแม(ธาตุดิน) วอก(ธาตุทอง) ระกา(ธาตุทอง) จอ(ธาตุดิน) กุน(ธาตุน้ำ)

นักษัตรที่ชงกัน (เป็นศัตรูกัน)

ชวด ชงกับ มะเมีย
ฉลู ชงกับ มะแม
ขาล ชงกับ วอก
เถาะ ชงกับ ระกา
มะโรง ชงกับ จอ
มะเส็ง ชงกับ กุน

นักษัตรที่ฮะกัน (สมพงษ์กัน)


หมายถึงการรวมกัน 2 ธาตุแล้วจะเปลี่ยนจากธาตุเดิม กลายเป็นธาตุใหม่ ถ้าให้คุณหมายถึงการรวมกันแล้วดี แต่ถ้าให้โทษหมายถึงการรวมกันแล้วไม่ดี
ชวด ฮะกับ ฉลู รวมกันแล้วเป็นธาตุดิน
ขาล ฮะกับ กุน รวมกันแล้วเป็นธาตุไม้
เถาะ ฮะกับ จอ รวมกันเป็นธาตุไฟ
มะโรง ฮะกับ ระกา รวมกันเป็นธาตุทอง
มะเส็ง ฮะกับ วอก รวมกันเป็นธาตุน้ำ
มะเมีย ฮะกับ มะแม รวมกันเป็นธาตุไฟ

12 นักษัตร เป็นซาฮะ (สามประสาน)


การฮะเป็นซาฮะ (สามประสาน) เป็นการรวมพลังกัน หลายหลักด้วยกันจึงมีพลังงานมาก ถ้าให้คุณก็จะประสบความสำเร็จเกี่ยวกับเรื่องใหญ่ๆที่ทำรวมกันหลายคน ทำกันเป็นหมู่คณะหรือองค์กร แต่ถ้าให้โทษก็จะเกิดโทษอย่างร้ายแรง


ชวด มะโรง วอก ไตรภาคี (ซาฮะ) รวมกันเป็นธาตุน้ำใหญ่
ฉลู มะเส็ง ระกา ไตรภาคี (ซาฮะ) รวมกันเป็นธาตุทองใหญ่
ขาล มะเมีย จอ ไตรภาคี (ซาฮะ) รวมกันเป็นธาตุไฟใหญ่
เถาะ มะแม กุน ไตรภาคี (ซาฮะ) รวมกันเป็นธาตุไม้ใหญ่

12 นักษัตร เป็นซาหวย (สามประสาน) ซาหวย ใหญ่กว่า ซาฮะ


การฮะเป็นซาหวย (สามประสาน) ป็นการรวมพลังกัน หลายหลักด้วยกันจึงมีพลังงานมาก ใหญ่กว่าซาฮะ เช่น ซาฮะเป็นธาตุน้ำหมายถึงทะเล แต่ซาหวยถือว่าเป็นมหาสมุทร ถ้าให้คุณก็จะประสบความสำเร็จเกี่ยวกับเรื่องใหญ่ๆ ที่ทำรวมกันหลายคน ทำกันเป็นหมู่๕ณะหรือองค์กร แต่ถ้าให้โทษก็จะเกิดโทษอย่างร้ายแรงมาก
กุน ชวด ฉลู ไตรภาคี (ซาหวย) รวมกันเป็นธาตุน้ำใหญ่


ขาล เถาะ มะโรง ไตรภาคี (ซาหวย) รวมกันเป็นธาตุไม้ใหญ่
มะเส็ง มะเมีย มะแม ไตรภาคี (ซาหวย) รวมกันเป็นธาตุทองใหญ่
วอก ระกา จอ ตรภาคี (ซาหวย) รวมกันเป็นธาตุทองใหญ่
การดูปีเกิดก็ดูตามนักษัตรดังกล่าวนั้นได้ ก็พอจะทราบได้ว่าปีนักษัตรใดส่งเสริมหรือพิฆาตกันอย่างไร

ในส่วนของหลักเดือนเกิด มีเกณฑ์นับดังนี้


เดือนขาล วันที่ 5 ก.พ.-5 มี.ค. (วันขึ้นปีใหม่ปฏิทินจีน) เดือนเถาะ วันที่ 6 มี.ค.- 5 เม.ย.
เดือนมะโรง วันที่ 6 เม.ย.- 5 พ.ค. เดือนมะเส็ง วันที่ 6 พ.ค.- 5 มิ.ย.
เดือนมะเมีย วันที่ 6 มิ.ย. - 7 ก.ค. เดือนมะแม วันที่ 8 ก.ค.- 7 ส.ค.
เดือนวอก วันที่ 8 ส.ค.- 7 ก.ย. เดือนระกา วันที่ 8 ก.ย. - 8 ต.ค.
เดือนจอ วันที่ 9 ต.ค. - 7 พ.ย. เดือนกุน วันที่ 7 พ.ย. - 7 ธ.ค.
เดือนชวด วันที่ 8 ธ.ค. - 5 ม.ค. เดือนฉลู วันที่ 6 ม.ค. - 4 ก.พ.

เดือนเกิดที่สมพงษ์กัน (ฮะกัน)


เดือนชวด วันที่ 8 ธ.ค. - 5 ม.ค. สมพงษ์กับ เดือนฉลู วันที่ 6 ม.ค. - 4 ก.พ.
เดือนขาล วันที่ 5 ก.พ.-5 มี.ค. สมพงษ์กับ เดือนกุน วันที่ 7 พ.ย. - 7 ธ.ค.
เดือนเถาะ วันที่ 6 มี.ค.- 5 เม.ย. สมพงษ์กับ เดือนจอ วันที่ 9 ต.ค.- 7 พ.ย.
เดือนมะโรง วันที่ 6 เม.ย.- 5 พ.ค. สมพงษ์กับ เดือนระกา วันที่ 8 ก.ย. - 8 ต.ค.
เดือนมะเส็ง วันที่ 6 พ.ค.- 5 มิ.ย. สมพงษ์กับ เดือนวอก วันที่ 8 ส.ค.- 7 ก.ย.
เดือนมะเมีย วันที่ 6 มิ.ย. - 7 ก.ค. สมพงษ์กับ เดือนมะแม วันที่ 8 ก.ค.- 7 ส.ค.

หลักเดือนเกิดที่ชงกัน (เป็นศัตรูกัน)


เดือนชวด วันที่ 8 ธ.ค. - 5 ม.ค. ชงกับ เดือนมะเมีย วันที่ 6 มิ.ย. - 7 ก.ค.
เดือนฉลู วันที่ 6 ม.ค. - 4 ก.พ. ชงกับ เดือนมะแม วันที่ 8 ก.ค.- 7 ส.ค.
เดือนขาล วันที่ 5 ก.พ.-5 มี.ค. ชงกับ เดือนวอก วันที่ 8 ส.ค.- 7 ก.ย.
เดือนเถาะ วันที่ 6 มี.ค.- 5 เม.ย. ชงกับ เดือนระกา วันที่ 8 ก.ย. - 8 ต.ค.
เดือนมะโรง วันที่ 6 เม.ย.- 5 พ.ค. ชงกับ เดือนจอ วันที่ 9 ต.ค.- 7 พ.ย.
เดือนมะเส็ง วันที่ 6 พ.ค.- 5 มิ.ย. ชงกับ เดือนกุน วันที่ 7 พ.ย. - 7 ธ.ค.

นักษัตรเวลาเกิด


หลักเวลาที่สมพงษ์กัน
เวลาชวด 23.00-00.59 น. สมพงษ์กับ เวลามะเมีย 11.00-12.59 น.
เวลาฉลู 01.00-02.59 น. สมพงษ์กับ เวลามะแม 13.00-14.59 น.
เวลาขาล 03.00-04.59 น. สมพงษ์กับ เวลาวอก 15.00-16.59 น.
เวลาเถาะ 05.00-06.59 น. สมพงษ์กับ เวลาระกา 17.00-18.59 น.
เวลามะโรง 07.00-08.59 น. สมพงษ์กับ เวลาจอ 19.00-20.59 น.
เวลามะเส็ง 09.00-10.59 น. สมพงษ์กับ เวลากุน 21.00-22.59 น.

ถ้าดูดวงตนเองก็ให้ดูตามหลักเกณฑ์นักษัตรข้างต้น
ผลการทำนายพื้นฐานมีอยู่ว่า


ถ้าปีจรชงปีเกิด ถ้าให้โทษจะส่งผลร้ายกับญาติผู้ใหญ่เกี่ยวกับการเดินทางไกล มีเคราะห์ อุบัติเหตุ
ถ้าให้คุณจะมีการเปลี่ยนแปลงโยกย้ายที่อยู่อาศัย


ปีจรฮะปีเกิด ถ้าให้โทษหมายถึงมีปัญหาเกี่ยวกับอสังหาริมทรัพย์ ถ้าให้คุณจะได้อสังหาริมทรัพย์
ถ้าให้โทษจะสูญเสียอสังหาริมทรัพย์


ปีจรชงปีเกิด ถ้าให้โทษ พ่อแม่มีภัย ฮวงจุ้ยที่ทำงานให้โทษ ถ้าให้คุณจะได้เลื่อนตำแหน่ง


ปีจรฮะเดือนเกิด ถ้าให้โทษ หมายถึงมีเคราะห์เพราะเพื่อนร่วมงาน
ถ้าให้คุณ หมายถึงจะมีโชคจากเพื่อนร่วมงาน


ปีจรชงวันเกิด ถ้าให้โทษคู่ครองจะมีภัย ฮวงจุ้ยที่อยู่อาศัยมีปัญหา ถ้าให้คุณจะโยกย้ายที่อยู่อาศัย


ปีรฮะวันเกิด ถ้าให้โทษจะผิดหวังความรัก ถ้าให้คุณจะสมหวังความรัก


ปีจรชงวันเกิด ถ้าให้โทษลูกหลาน บริวารมีภัย ถ้าให้คุณลูกหลานจะมีการเดินทางโยกย้าย

ปีจรฮะเวลาเกิด ถ้าให้โทษอาภัพลูกหลาน ถ้าให้คุณได้ลูกหลาน


อีกอย่างหนึ่งคือ
ราศีล่างพิฆาตกันเขาเรียกว่า "ชง" แต่ถ้าราศีบนชนปะทะกันเขาเรียกว่า "ขัก"
"ขัก" ปีเกิด หมายถึงจะมีการเดินทางไกลในปีนั้น ถ้าให้คุณจะประสบความสำเร็จ ให้โทษจะมีอุบัติเหตุจากการเดินทาง อย่างในปี 2553 ที่จะถึงนี้ เป็นปีที่ขักกับทุกคนที่เกิดในปีที่ลงท้ายด้วยเลข 7


ปีจร
ราศีบน ฮะปีเกิดราศีบน หมายถึงจะมีการทำกิจกรรมการศึกษาเล่าเรียน ต่างประเทศร่วมกับบุคคลอื่น ให้คุณจะสมหวัง ให้โทษ ผิดหวัง
ปี 2553 จะฮะกับทุกคนที่เกิดในปี พ.ศ. ที่ลงท้ายด้วยเลข 8


ดวงจีนราศีล่างชนปะทะกันเขาเรียกว่าชง แต่ถ้าเป็นราศีบนชนปะทะกันเขาเรียกว่า "ขัก"
ปีจร
ราศีบนขักกับเดือนเกิดราศีบน หมายถึงจะมีการเดินทาง ให้คุณจะมีโชค ให้โทษจะมีเคราะห์หรือมีอุบัติเหตุจากการเดินทาง

หลักการดูคู่สมพงษ์ ชง-ฮะ


1. ดูที่หลักปีเกิดของตนเองเทียบกับหลักปีเกิดของผู้ที่ต้องการจะดู (ฝ่ายตรงข้าม)
2. ดูที่หลักเดือนเกิดของตนเองเทียบกับหลักเดือนเกิดของผู้ที่ต้องการจะดู
3. ดูที่หลักวันเกิดของตนเองเทียบกับหลักวันเกิดของผู้ที่ต้องการจะดู
4. ดูที่หลักเวลาเกิดของตนเองเทียบกับหลักเวลาเกิดของผู้ที่ต้องการจะดู
ถ้าฮะกัน (สมพงษ์กัน) แต่ถ้าชงกัน (ไม่สมพงษ์กัน)

ความหมายของแต่ละหลัก (ปี เดือน วัน เวลาเกิด)


1. หลักปีหมายถึงพ่อแม่ และผู้ใหญ่ ถ้าฮะกันแสดงว่าผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายเข้ากันได้ แต่ถ้าชงกันแสดงว่าพ่อแม่ของเรากับฝ่ายตรงข้ามไม่สมพงษ์กัน
2. หลักเดือนเกิดหมายถึงอาชีพการงาน ถ้าฮะกันแสดงว่าสมพงษ์กัน แต่ถ้าชงกันแสดงว่าไม่สมพงษ์กัน
3. หลักวันเกิดหมายถึงคู่ครอง ที่อยู่อาศัย ถ้าฮะกันแสดงว่าสมพงษ์กัน แต่ถ้าชงกันแสดงว่าไม่ค่อยสมพงษ์กัน (ไม่ค่อยได้อยู่ด้วยกัน)
4. หลักเวลาเกิดหมายถึงลูกหลานบริวาร ถ้าฮะกันแสดงว่ามีลูกง่าย แต้ถ้าชงกันแสดงว่าไม่สมพงษ์กับลูก

ลองเทียบดูนะว่าดวงของคุณจะเข้าข่ายชง ฮะ หรือขัก อย่างไรบ้าง ขอให้โชคดีทุกคน

ที่มา ตำราโหรามหาเวทย์


วันจันทร์ที่ 14 มิถุนายน พ.ศ. 2553

6 เคล็ดลับความสำเร็จในการเป็นหัวหน้างาน

JobsDB.com

หัวหน้างานหรือผู้จัดการ จำเป็นต้องให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับการบริหารจัดการ การเป็นผู้นำ การเรียนรู้ภายในองค์กร และสิ่งสำคัญที่สุดในการเป็นหัวหน้างาน คือ การเป็นบุคคลที่ผู้อื่นอยากจะปฏิบัติตาม โดยทุก ๆ สิ่งที่คุณกระทำจะเป็นสิ่งที่ชี้ให้เห็นว่า ผู้คนมีความนับถือในตัวคุณ และต้องการทำตามคุณหรือไม่
โดยหัวหน้างานที่ประสบความสำเร็จ มักได้แก่คนที่มีคุณสมบัติดังนี้
1. มีความสัมพันธ์อันดีกับผู้ใต้บังคับบัญชาและเพื่อนร่วมงาน เมื่อพวกเขาแสดงความสามารถที่คุณพึงพอใจ จงบอกพวกเขา แสดงให้พวกเขาเห็นว่าคุณเอาใจใส่ เชื่อใจ และมองเห็นสิ่งที่ดีในตัวพวกเขา
2. สื่อสารกับผู้ใต้บังคับบัญชาเป็นประจำในทุก ๆ ช่องทาง ทั้งแบบตัวต่อตัว ผ่านเอกสาร และการเขียนอีเมล รวมถึงการฟัง และให้คำแนะนำติชมพวกเขาในการปฏิสัมพันธ์กับบุคคลอื่นด้วย
3. สร้างทีมให้สามารถทำงานร่วมมือกับผู้อื่นได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อช่วยให้สมาชิกในทีมมีพัฒนาการในการทำงาน ทั้งในแง่ของประสิทธิภาพ ความคิดสร้างสรรค์ และได้ผลิตผลที่เป็นประโยชน์เพิ่มขึ้น
4. รู้จักวิธีในการสร้างสภาพแวดล้อมที่กระตุ้นผู้ใต้บังคับบัญชาให้พวกเขามีแรงจูงใจในการอุทิศตนให้กับการทำงาน เพื่อเป้าหมายคือความสำเร็จขององค์กร
5. เป็นแบบอย่างที่ดีให้กับลูกน้อง และสร้างทัศนคติให้ลูกน้องตระหนักถึงความสำคัญในการทำตามแบบอย่างของคุณ
6. ส่งเสริมให้ผู้ใต้บังคับบัญชาของคุณมีการพัฒนาทักษะและความสามารถผ่านการเรียนรู้จากการทำงานในทุก ๆ วัน
ตามที่ได้กล่าวมานี้ ความสำเร็จของหัวหน้างานนั้นอยู่ที่ความสามารถในการบริหารจัดการผู้ใต้บังคับบัญชา หัวหน้างานที่ดีจะต้องเป็นที่รักและนับถือของลูกน้อง เอาใจใส่พวกเขา สื่อสารกับพวกเขาให้มาก ฟัง และให้คำชี้แนะที่เป็นประโยชน์ ทำตัวเป็นแบบอย่างที่ดี ที่น่าปฏิบัติตาม รวมไปถึงการส่งเสริมให้พวกเขามีทัศนคติที่ดีในการทุ่มเททำงาน เพื่อที่พวกเขาจะพัฒนา และเติบโตก้าวหน้าต่อไป