วันอาทิตย์ที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2553

เคล็ดไม่ลับ ประจำบ้าน

การรักษาเครื่องซักผ้า

เวลาที่ไม่ใช้เครื่องซักผ้า
ให้เปิดฝาทิ้งไว้เสมอ
ช่วยรักษาแผ่นยางที่อยู่ตรงประตูเครื่อง
และช่วยให้เครื่องไม่มีกลิ่นด้วยจ้ะ
===


ล้างห้องน้ำด้วยโค้ก

การทำความสะอาดชักโครก
ให้ปราศจากคราบ
และดูเหมือนใหม่เสมอ
คือ ให้ชักโครกกินโค้กซะบ้าง
เทโค้กใส่ลงในชักโครก
ปล่อยให้ชักโครกดื่มโค้กอย่างสบายใจ
สักสองสามชั่วโมง
คราบสกปรกจะหลุดออกหมด
===


น้ำตาเทียนหยดใส่พื้น

ไม่ว่าจะเป็นพื้นพรม พื้นไม้
หรือโต๊ะ ตู้
ถ้ามีน้ำตาเทียนหยดใส่
อย่ามัวแต่นั่งแกะให้เสียเวลา
ให้เอากระดาษทิชชู่หนา ๆ
วางบนคราบน้ำตาเทียนนั้น
แล้วเอาเตารีดไฟปานกลางมารีด ๆ
น้ำตาเทียนจะหลุดติดกับทิชชู่
ระวังอย่าให้ไฟแรงมากนะ
เดี๋ยวไหม้
===


ทำให้บ้านหอม

ไม่ต้องพึ่งสเปรย์หอมกันแล้ว
ให้เอาส้มเช้ง
มาปักไว้ด้วยกานพลูหลาย ๆ ดอก
วางทิ้งไว้ตามจุดต่าง ๆ ในบ้าน
ใส่แก้วสวย ๆ ก็จะดูดี
ดูเหมือนของตกแต่ง
ทีนี้กลิ่นในบ้านจะหอมหวนตลอดเวลา
ข้อควรระวัง
ต้องหมั่นเปลี่ยนส้มซักหน่อย
อย่าทิ้งไว้จนเน่า
ไม่งั้นคงได้กลิ่นตรงกันข้าม
===


ไมโครเวฟหอมชื่นใจ

เอาชามใส่น้ำอุ่นบีบมะนาว
วางไว้ตรงกลางไมโครเวฟ
เปิดเครื่องร้อนสุดห้านาที
ความร้อนจากน้ำจะทำให้คราบสกปรก
หลุดโดยง่าย
และมะนาวจะช่วยให้กลิ่นหอมสดชื่
===


ลอกสติ๊กเกอร์

สติ๊กเกอร์ที่แปะตู้เย็น
คอมพิวเตอร์ หรือตามผนังอะไรก็ตาม
เวลาเบื่อแล้วจะลอกทิ้งไป
ให้ใช้น้ำมันก๊าดชุบผ้าหมาด ๆ
เช็ดถูตรงสติ๊กเกอร์
แล้วปล่อยทิ้งไว้สักพัก
สติ๊กเกอร์จะหลุดออกมาโดยง่าย
===


กระจกใส

น้ำยาเช็ดกระจก
นอกจากจะมีสารเคมีแล้ว
ยังเสียเงินแพงอีกด้วย
ใช้วิธีนี้จะดีกว่า
ให้เอาน้ำอุ่นใส่ถัง
เอาหอมใหญ่มาปอกเปลือก
แล้วผ่าสี่
ใส่หอมลงไปในถัง
แค่นี้แหละ
เช็ดกระจกได้ใสแจ่มแจ๋วเหมือนใหม่
===


ทำความสะอาดเตาอบ

1. ตั้งเตาอบไว้ที่ความร้อน 200 องศาเซลเซียส
ปล่อยไว้ 3 นาที
แล้วจึงปิดเครื่อง

2.
เอาหม้อใส่น้ำเดือดตั้งไว้ที่พื้นเตาอบ

3.
เอาชามทนไฟใบเล็ก ๆ
ใส่แอมโมเนีย
วางบนตะแกรงเตาอบ
เหนือหม้อน้ำเดือดที่ใส่ไว้

4.
ปิดฝาเตาอบทิ้งไว้หลาย ๆ ชั่วโมง
แล้วค่อยนำผ้า
มาเช็ดทำความสะอาดเตาอบ
คราบต่าง ๆ จะหลุดลอกออกมาโดยง่าย

===


กำจัดกลิ่นไม่พึงประสงค์ในตู้เย็น

1. เอากาแฟเย็นใส่ถ้วย
วางไว้หนึ่งคืน
กลิ่นจะหายไปดังปลิดทิ้ง

2.
เอามันฝรั่งผ่าครึ่งใส่ชามเล็ก ๆ วางไว้
มันฝรั่งจะดูดกลิ่นไปหมด

3.
เอาถุงชาที่ยังไม่ได้ชงใส่ไว้
ถุงชาจะซับกลิ่นเช่นเดียวกับมันฝรั่ง
จะวางถุงทิ้งไว้ตลอดก็ได้
ซักสองอาทิตย์ก็เปลี่ยนครั้งนึง
ตู้เย็นจะได้หอมตลอดกาล

===


กำจัดกลิ่นบนเขียง

หลังจากที่ใช้เขียง
หั่นหอมกระเทียม
เขียงมักจะเก็บกลิ่นฉุนไว้ติดแน่น
ให้เอามะนาวผ่าซีก
มาถูบนเขียงให้ทั่ว
แล้วล้างออก
กลิ่นจะหายไป

===


กำจัดขนสัตว์เลี้ยง

ขนสัตว์เลี้ยง
ที่ติดตามโซฟา เบาะ
กำจัดได้โดย
ใส่ถุงมือยาง
ชุบน้ำหมาด ๆ
แล้วเอาถุงมือนี่แหละ
ไปถู ๆ ตามโซฟา
ขนจะม้วนติดกันเป็นก้อน ๆ
เก็บทิ้งได้ง่าย

===

ไล่แมวแบบนิ่ม ๆ

เอาแผ่นอลูมิเนียมฟอยล์
วางไว้บนที่ที่ไม่อยากให้แมวมา
แมวเกลียดเจ้าแผ่นนี้มาก
จะเป็นเพราะเสียงกรอบแกรบ
หรือแสงสะท้อนก็ไม่ทราบ

===

ไล่แมลงวัน

แมลงวันชอบเข้ามาอยู่ในครัว
ให้เอาแก้วใส่น้ำอุ่นครึ่งแก้ว
ใส่น้ำส้มสายชู
ลงไปซัก 2-3 ช้อนโต๊ะ
ใส่น้ำตาลนิดนึง
ปิดฝาแก้วด้วยพลาสติก
จิ้มรูไว้หลาย ๆ รู
แมลงวันได้กลิ่นแล้วจะหนีไป

===

ไล่แมงมุม

แมงมุมชอบมาชักไย
ไว้ตามซอกมุมต่าง ๆ
วิธีไล่แมงมุมง่าย ๆ
ก็คือ วางชามใส่เกลือไว้ตรงซอก
ที่แมงมุมชอบชักไย
เกลือจะดูดความชื้น
ทำให้แมงมุมสร้างไยไม่สำเร็จ

===

วันจันทร์ที่ 16 สิงหาคม พ.ศ. 2553

พวกมานุดเงินเดือนทั้งหลายมาอ่านกันหน่อยเร็วๆๆ

ทฤษฎีแม่นกเลี้ยงลูกนก
ทุกครั้งที่แม่นกได้อาหารมาป้อนลูกนก
ลูกนกที่อยู่ในรังตัวที่ “แหกปาก” ร้องได้ดัง “โก่งคอ” ได้สูงจะได้กิน
ส่วนตัวที่คอพับคออ่อนแหกปากร้องก็ไม่เป็นจะอด
นานวันเข้าตัวแหกปากจะโตวันโตคืน
ส่วนตัวที่แหกปากไม่เป็นก็เหี่ยวเฉาตาย
นี่เป็นเหตุที่ว่าในลูกนกสี่ห้าตัว จะมีตัวลอดเพียงสองสามตัว
ส่วนที่เหลือก็ตายไป และที่รอดก็คือ
“พวกที่แหกปากร้อง”
ถามว่า “เป็นความผิดของแม่นกหรือ?”
ถามว่า “ลูกนกที่แหกปากไม่เป็นผิดหรือ?”
“ถ้าไม่ผิดทำไม่เขาต้องตาย?”

มนุษย์กับสัตว์มี “สมอง” เหมือนกัน แต่สัตว์มีเพียง “สัญชาติญาณ”
ส่วนมนุษย์ที่เขาเรียกว่า “สัตว์ประเสริฐ”
นอกจากมี “สัญชาติญาณ” แล้วยังมี “สติ” “สัมปชัญญะ” สามารถ “วิเคราะ” “พิจารณา” สามารถ “วางระเบียบ กฎเกกณฑ์” สามารถแบ่งสันปันส่วนให้ลูกนกได้อาหารครบทุกตัว
ถามว่า “จริงหรือ?”


ณ โรงพยาบาลสถานเลี้ยงเด็กทารกแห่งหนึ่ง
เด็กคนไหน “แหกปากร้อง” นางพยาบาลก็จะเอาขวดนมยัดใส่ปาก
ส่วนเด็กที่นิ่ง นางพยาบาลก็คิดว่า “มันคงยังไม่หิว” “มันก็ดีอยู่แล้วนี่” “ปล่อยมันไป”


ผลของการ “อดทน” คือ “อดแดก”

ณ บริษัทแห่งหนึ่ง.............(จินตนาการต่อกันเอาเองครับ คงพอเดาตอนจบได้)
ผลของการ “อดทน” คือ “อดแดก”

วันพุธที่ 11 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โลกเราอีก ๑๐๐ หรือพันปีข้างหน้าจะเป็นอย่างไร คุณยายวานก้าไขความลับเอาไว้


Vanga วานก้า หรือชื่อจริงคุณยาย วานเกเลีย ปานเดว่า กุชเตโรว่า เป็นชาวบัลแกเรีย ซึ่งตายไปเมื่อหลายปีก่อน คุณยายผู้นี้เกิดเมื่อ 31 มกราคม 1911 ใน ครอบครัวชาวนายากจนที่หมู่บ้าน สตรูมิซ่า ที่ปัจจุบันอยู่ใน มาเซโดเนีย เมื่อคลอดออกมา คุณยายทำท่าว่าจะไม่รอดตั้งแต่หลังคลอด แต่ไม่ยักกะตาย และหลังจากมีอายุได้ 2 เดือน เด็กน้อยก็กลับมาแข็งแรงเหมือนเด็กปกติ ตอนอายุ 3 ขวบ แม่คุณยายก็เกิดมาตาย ไม่นานหลังจากนั้น พ่อก็ถูกเกณฑ์ไปรบในสงครามโลกครั้งแรก เพื่อนบ้านต้องช่วยกันดูแลเด็กน้อยแทน หลังจากพ่อกลับมา ชีวิตของท่านก็ดีขึ้น เมื่อพ่อมีเมียใหม่ แม่ใหม่ก็ไม่ได้รังเกียจลูกเลี้ยงพอคุณยายมีอายุได้ 12 ขวบ ก็เกิดเหตุการณ์ประหลาดกับตัวท่าน กล่าวคือได้เกิดพายุหมุนในหมู่บ้าน ( โดยก่อนและหลังเหตุการณ์ครั้งนั้น ไม่เคยมีปรากฏการณ์แบบนี้เกิดขึ้นเลย) พายุได้หอบเอาคุณยายขึ้นไปเบื้องบน ก่อนจะปล่อยตกลงมาในภายหลัง และหลังจากนั้นตาของคุณยายก็เริ่มมองไม่เห็น หลังการผ่าตัดก็ไม่หาย และมองไม่เห็นโดยสิ้นเชิง 3 ปีหลังเหตุการณ์นั้นปี 1925 คุณยายถูกส่งตัวเข้าโรงเรียนคนตาบอด และใช้เวลาอยู่ที่นี่ 3 ปี เมื่อกลับมาบ้าน ก็ต้องเจอกับชีวิตที่ยากลำบาก ทั้งความยากจน งานหนัก และโรคภัยไข้เจ็บที่เกือบจะคร่าชีวิต แต่ในช่วงนั้นเองที่คุณยายเริ่มรู้สึกตัวว่ามีอำนาจพิเศษ นั่นก็คือการมองเห็นเหตุการณ์ต่างๆทั้งจากในความฝัน พรายกระซิบ และอื่นๆ ทำให้สามารถทำนายทายทักเหตุการณ์ทั้งที่จะเกิดในอนาคต และเกิดมาแล้วได้อย่างแม่นยำมาก โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เรื่องทหารที่สูญหายไปในแนวหน้า แต่ตอนแรก คุณยายไม่กล้าพูดเรื่องนี้กับใคร กลัวจะถูกหาว่า นอกจากบอดแล้วยังบ้าคำทำนายครั้งแรกของคุณยาย มีขึ้นเมื่ออายุ 16 ปี คือการบอกถึงสถานที่ที่แพะของพ่อที่ถูกลักไป ถูกนำไปซ่อน คุณยายบอกว่า ท่านเห็นสิ่งนี้ในฝันปี 1942 คุณยายแต่งงานกับหนุ่มที่รู้จักกันที่โรงเรียนคนตาบอด และเริ่มเป็นนักทำนายอย่างเป็นงานเป็นการตอนอายุ 30 ช่วง นี้คุณยายเริ่มโด่งดังมากขึ้น เมื่อทำนายทายทักว่า ทหารคนไหน จะกลับมาจากแนวหน้า หรือไม่ได้กลับ ทำให้ผู้คนแห่แหนกันมาหาคุณยาย ให้ช่วยทำนายทายทัก ทั้งเรื่องทหาร เรื่องโรคที่ป่วยจากการประเมิน เชื่อว่า มีผู้มาขอความช่วยเหลือจากคุณยายมากถึงกว่าล้านคน แต่ไม่มีหลักฐานอะไรมายืยยันเรื่องนี้ได้ เพราะไม่ได้มีการจดบันทึกใดๆทั้งสิ้น นอกจากนั้น บางคนก็ไม่อยากให้ใครรู้ว่าเขาหรือเธอ มาขอความช่วยเหลือจากคุณยายบ้านนอกตาบอด ว่ากันว่า หนึ่งในผู้ที่มาหาคุณยาย เพื่อให้ทำนายโชคชะตาก็คือ ฮิตเลอร์เมื่อ บัลแกเรีย กลายเป็นประเทศสังคมนิยม ทางการก็เข้ามาตรวจสอบคุณยาย แถมยังส่งคุณยายไปนอนถึงอยู่ครึ่งปี เพราะดันไปทำนายทายทักเรื่องการตายของสตาลิน แต่เมื่อเรื่องการตายเกิดขึ้นจริง พวกเขาก็ปล่อยคุณนายออกมา ฝ่ายศาสนาเองก็ไม่ชอบหน้าคุณยาย เพราะคำทำนายหลายข้อขัดแย้งกับความเชื่อทางศาสนาของกรีกออโธดอกซ์ในส่วนของความแม่นยำนั้น จากการทำวิจัยของนักวิทยาศาสตร์บัลแกเรียผู้หนึ่งที่ติด ตามคำทำนายมากกว่า 7 พันคำทำนายของคุณยาย ก็สรุปว่า ถูกต้องถึง 80 เปอร์เซ็นต์ โดยคำว่าแม่นในที่นี่ ระบุด้วยว่า เกินกว่าระดับที่จะถือได้ว่าเป็นการประจวบเหมาะและเมื่อไม่สามารถสยบกระแสนิยมการมาใช้บริการ ทางการก็เลยหาทางทำเงินทำทองจากเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ตั้งแต่ ปี 1967 จนถึง 1990 คุณ ยาย ถือเป็นข้าราชการคนหนึ่ง และมีการกำหนดสนนราคาการเข้ามาขอใช้บริการของคุณยายวานก้า ไว้อย่างเป็นกิจลักษณะ โดยคนจากประเทศสังคมนิยม 15 ประเทศคิดค่าบริการคนละ 10 เลียฟ (ประมาณ 2 ดอลล่าร์ ) ส่วนจากประเทศอื่นๆที่เหลือคิดคนละ 50 ดอลล่าร์ งานนี้ทางการรับเข้ากระเป๋าไปหมด ในส่วนของตัวคุณยาย ก็จะได้เงินเดือนเดือนละ 200 เลียฟ นอกจากนั้นก็ยังได้รถยนต์ บ้าน และคนรับใช้จากคนที่เคยถูกทางการจับ คุณยายวานก้า ได้กลายเป็น ความภาคภูมิใจของบัลแกเรียไปเสียแล้วเมื่อ มีคนชอบ ก็มีคนชัง คนที่ชิงชังคุณยายตาบอดรายนี้มากที่สุด ออกมาติติงคุณยายว่า ทีอันไหนทายถูกแล้วละก็ จำได้จำดี ส่วนอันไหนทายผิด ดันลืมไปหมดนานแล้ว นอกจากนั้น ก็ยังบอกว่าคุณยายทำงานประสานกับหน่วยข่าวกรองบัลแกเรียในการทำนายโชคชะตา ผู้คน คือให้หน่วยข่าวกรองไปสืบข้อมูลของคนที่จะมาพบคุณยายเป็นการล่วงหน้า เขาบอกว่าหลักฐานในเรื่องนี้ก็คือหลังจากรัฐบาลคอมมิวนิสต์ล้มลง ฝ่ายข้าวกรองไม่ได้เข้ามาช่วยเหลืออีกต่อไป การทายของคุณยายก็แย่ลง
เรือดำน้ำคูร์สค์ตัวอย่าง การทำนายของคุณยายวานก้าที่ว่าแม่นๆนั้น ก็อย่างเช่นเรื่องเรือดำน้ำคูร์สค์ ของรัสเซียที่ระเบิดเมื่อหลายปีก่อน ที่คุณยายทำนายไว้ตั้งแต่ปี 1980 คุณยายทำนายเรื่องนี้ว่า ' ในปี 1999 หรือ 2000 คูร์สค์ จะจมอยู่ใต้น้ำ ผู้คนทั้งโลกจะเศร้าใจกับมัน ' แต่ตอนนั้นไม่มีใครเชื่อ เพราะเมืองคูร์สค์ อยู่ไกลจากทะเล หรือแม่น้ำ และไม่มีใครฉุกคิดว่าคุณยายทำนายถึงเรื่องดำน้ำคูร์สค์นอกจากนั้น คุณยายวานก้า ก็ยังทำนายตั้งแต่ปี 1979 ถึงการที่สหภาพโซเวียต จะกลับคืนมาเป็นรัสเซียเหมือนเดิม เรื่องที่สหรัฐถูกผู้ก่อการร้ายโจมตี ในเหตุการณ์ 11 กันยายน 2001 ตั้งแต่ปี 1989 เรื่องการลงนามในสนธิสัญญาจำกัดอาวุธนิวเคลียร์ระหว่างกอร์บาชอฟกับเรแกน การเข้ามาอยู่ในกลุ่ม จี 8 ของรัสเซีย การกลับมาเป็นมหาอำนาจอีกครั้งของรัสเซีย การขึ้นมายิ่งใหญ่ของคนชื่อ วลาดิมีร์ และเรื่องวันตายของคุณยายเองคุณยายตายเมื่อ 11 สิงหาคม 1996 เวลา 10:10 น. ตรงตามที่ทำนายเอาไว้ทั้งวันที่ และเวลาและต่อไปนี้คือคำทำนายถึงโลกในอนาคตครับ .................


2008 - ผู้นำ 4 ประเทศถูกลอบสังหาร กรณีพิพาทในฮินดูสถาน เป็นปัจจัยหนึ่งที่นำไปสู่สงครามโลกครั้งที่ 3


2010 - เริ่มสงครามโลกครั้งที่ 3 ( พฤศจิกายน 2010 - ตุลาคม 2014 ) ตอน แรกก็ใช้อาวุธธรรมดา ต่อมาก็ตามด้วยนิวเคลียร์และอาวุธเคมี การนำอาวุธนิวเคลียร์มาใช้ ทำให้ซีกโลกเหนือ จะไม่เหลือทั้งพืชและสัตว์ จากนั้นพวกมุสลิม จะใช้อาวุธเคมีเข้าจัดการกับชาวยุโรปที่ยังหลงเหลืออยู่ ผู้คนจะป่วยเป็นฝีหนองและมะเร็งผิวหนังกันมากจากผลของอาวุธเคมี


2016 - ยุโรปแทบจะร้างผู้คน


2018 - จีนเป็นมหาอำนาจของโลกรายใหม่ ประเทศกำลังพัฒนา กลับกลายจากประเทศผู้ถูกกดขี่ มาเป็นผู้กดขี่เสียเอง


2023 - วงโคจรของโลกเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย


2028 - เกิด แหล่งพลังงานใหม่ (คาดว่า น่าจะเป็น เทอร์โมนิวเคลียร์ รีแอ็คชั่น ) โลกเริ่มเอาชนะปัญหาความอดอยากได้ มนุษย์เริ่มเดินทางไปยังดาวศุกร์


2033 - น้ำแข็งขั้วโลกละลาย ระดับน้ำทะเลสูงขึ้น


2043 - เศรษฐกิจโลกรุ่งเรือง มุสลิมปกครองยุโรป


2046 - มนุษย์ปลูกอวัยวะได้ทุกอย่าง การเปลี่ยนอวัยวะ เป็นวิธีการรักษาโรคที่ดีที่สุด


2066 - สหรัฐโจมตีกรุงโรมของพวกมุสลิมด้วยอาวุธใหม่ คืออาวุธสภาพอากาศ ซึ่งทำให้อากาศหนาวเย็นลง


2076 - สังคมไร้ชนชั้น (คอมมิวนิสต์)


2084 - ธรรมชาติได้รับการฟื้นฟู


2088 - เกิดโรคใหม่ โรคแก่ติดจรวด (แก่ในไม่กี่วินาที)


2097 - เอาชนะโรคแก่ติดจรวดได้


2100 - ดวงอาทิตย์เทียมให้แสงส่างกับโลกส่วนที่มืด


2111 - มนุษย์ กลายเป็นมนุษย์ไซบอร์ก (หุ่นยนต์มีชีวิต)


2125 - โลกได้รับสัญญาณจากอวกาศ


2130 - โลกไปตั้งอาณานิคมใต้น้ำ (จากคำแนะนำของมนุษย์ต่างดาว)


2164 - สัตว์ กลายเป็นสัตว์กึ่งมนุษย์


2167 - เกิดศาสนาใหม่


2183 - อาณานิคมบนดาวอังคารมีอาวุธนิวเคลียร์ และต้องการเป็นเอกราชจากโลก


2187 - โลกหยุดยั้งการระเบิดของภูเขาไฟขนาดใหญ่ 2 ลูก


2195 - อาณานิคมใต้น้ำ เลี้ยงตัวเองได้โดยสมบูรณ์ ทั้งอาหารและพลังงาน


2196 - ชาวเอเชียผสมกับชาวยุโรปโดยสมบูรณ์


2221 - ในการติดตามหาชีวิตนอกโลก มนุษย์ต้องเจอกับอะไรบางอย่างที่น่ากลัว


2256 - ยานอวกาศนำโรคร้ายกลับมายังโลก


2262 - วงโคจรของโลกเปลี่ยนแปลงอยู่ตลอด ดาวหางเกือบชนดาวอังคาร


2273 - การผสมปนเปกันของคนผิวขาว ผิวเหลือง และผิวดำ ก่อเกิดเป็นคนสีผิวใหม่


2279 - พบพลังที่ไม่ได้มาจากอะไรเลย (คาดว่าอาจจะมาจากสภาพสูญญากาศ หรือไม่ก็หลุมดำ )


2288 - มีการเดินทางไปกับกาลเวลา การติดต่อครั้งใหม่กับมนุษย์ต่างดาว


2291 - ดวงอาทิตย์เริ่มเย็นลง มีความพยายามที่จะจุดมันขึ้นมาใหม่


2296 - เกิดระเบิดครั้งใหญ่บนดวงอาทิตย์ สถานีอวกาศและดาวเทียมเก่าเริ่มตก


2299 - ในฝรั่งเศสเกิดการจลาจลต่อต้านมุสลิม


2302 - เปิดกฏใหม่เรื่องความลับของจักรวาล


2304 - พบความลับของดวงจันทร์


2354 - เกิดความผิดพลาดกับดวงอาทิตย์เทียม ก่อให้เกิดความแห้งแล้ง


2371 - เกิดปัญหาความอดอยากครั้งใหญ่


2480 - ดวงอาทิตย์เทียม 2 ดวงชนกัน


3005 - สงครามบนดาวอังคาร


3010 - ดาวหางชนดวงจันทร์ เศษซากที่กระจาย พากันโคจรรอบโลก


3797 - ไม่มีสิ่งมีชีวิตใดเหลือบนโลก แต่มนุษย์ได้ไปวางสิ่งจำเป็นพื้นฐานสำหรับการดำรงชีวิตบนดาวดวงอื่นแล้ว-------------------------The end of the world-------------------------------และนี่คือคำทำนายในดาวดวงใหม่ที่มนุษย์ไปตั้งถิ่นฐาน


3803 - A new planet is populated by little. Fewer contacts between people. Climate new planet affects the organisms of people - they mutate.


3803 - มี ประชากรเพียงน้อยนิดบนดาวเคราะห์ดวงใหม่ และไม่ค่อยมีการติดต่อกัน สภาวะบนดาวดวงใหม่นี้สร้างผลกระทบกับร่างกายมนุษย์ - ทำให้เกิดการกลายพันธุ์


3805 - The war between humans for resources. More than half of people dying out.3805 - เกิดสงครามแย่งชิงทรัพยากรณ์ขึ้น ตายกันมากกว่าครึ่ง


3815 - The war is over.3815 - สงครามจบ


3854 - The development of civilization virtually stops. People live flocks as beasts.3854 - ดูเหมือนว่าการพัฒนาทางอารยธรรมจะชงักลง ผู้คนใช้ชีวิตราวสัตว์ป่า


3871 - New prophet tells people about moral values, religion.3871 - ศาสดาใหม่ถือกำเนิดขึ้น สั่งสอนผู้คนในเรื่องศีลธรรมและศาสนา (พ.ศ. 4414)


3874 - New prophet receives support from all segments of the population. Organized a new church.3874 - ศาสดาได้รับการสนับสนุนจากผู้คนทุกหมู่เหล่า จัดสร้างนิกายขึ้นมาใหม่


3878 - along with the Church to re-train new people forgotten sciences.3878 - เมื่อนิกายใหมถือกำเนิด ผู้คนยุคใหม่ก็ลืมเรื่องวิทยาศาสตร์


4302 - New cities are growing in the world. New Church encourages the development of new technology and science.4302 - เมืองต่างๆ เติบโตขึ้นบนโลก นิกายใหม่สนับสนุนการพัฒนาเทคโนโลยีและวิทยาศาสตร์


4302 - The development of science. Scientists discovered in the overall impact of all diseases in organism behavior4302 - ความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์ทำให้นักวิทยาศาสตร์ค้นพบ ภาพรวมของโรคทุกชนิด


4304 - Found a way to win any disease.4304 - เจอทางกำจัดโรคทุกชนิด


4308 - Due to mutation people at last beginning to use their brains more than 34%. Completely lost the notion of evil and hatred.4308 - ในที่สุดมนุษย์ก็ใช้สมองเกิน 34% ทำให้กำจัดความเกลียดชังออกไปจากใจได้


4509 - Getting to Know God. The man has finally been reached such a level of development that can communicate with God.4509 - ใกล้ชิดพระเจ้ามากขึ้น มนุษย์พัฒนาถึงขั้นที่สามารถติดต่อกับพระเจ้าได้


4599 - People achieve immortality.4599 - มนุษย์เข้าถึงความเป็นอมตะ


4674 - The development of civilization has reached its peak. The number of people living on different planets is about 340 billion. Assimilation begins with aliens.4674 - อารยธรรมถูกพัฒนาไปจนถึงจุดสูงสุด ประชากรรวมๆ ในทุกๆ ดาวอยู่ที่ 340 พันล้านคน เริ่มมีการรวมเผ่าพันธุ์กับเอเลี่ยน


5076 - A boundary universe. With it, no one knows.5076 - สู่สุดขอบจักรวาล ที่ซึ่งหามีผู้ใดรู้จักไม่


5078 - The decision to leave the boundaries of the universe. While about 40 percent of the population is against it.5078 - เกิดการตัดสินใจก้าวข้ามขอบจักรวาล ในขณะที่ผู้คน 40% ไม่เห็นด้วย


5079 - End of the World.5079 - จบบริบูรณ์

วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

วิธีติดตามรถเมื่อรถหายได้โดยเร็วที่สุด

เห็นว่ามีประโยชน์เลยเอามาบอกต่อ

เรียน ผู้บริหารและพนักงานทุกท่านทราบเพื่อเป็นข้อมูล
และขอขอบคุณ คุณอุทัยศร โสภากุล บุคคล เอ็ม พี ปาร์ติเกิล บอร์ด ที่เอื้อเฟื้อข้อมูล

วิธีติดตามรถ เมื่อรถหายได้โดยเร็วที่สุด หากมีเหตุจำเป็นที่จะต้องจอดรถไว้ ไม่ว่าที่ใดก็ตามย่อมมีโอกาสเสี่ยงที่จะถูกโจรกรรมได้เสมอ และเมื่อมีเหตุเกิดขึ้น เป็นเรื่องยากยิ่งที่จะติดตามกลับคืนมาได้ อันเนื่องมาจาก กำลังของเจ้าหน้าที่มีน้อยและไม่รู้เส้นทางการหลบหนี ดังนั้นจึงมีอีกวิธี ซึ่งเป็นวิธีที่ได้ผล 100 % คือให้ท่านหาโทรศัพท์มือถือราคาถูกๆแต่ใช้งานได้ดี Battery ดี ซิมการ์ดระบบใดก็ได้ เปิดเครื่องและซ่อนไว้ในรถในจุดที่ลับตาที่สุด ที่คิดว่าคนร้ายจะไม่เห็น เปิดเครื่อง ปิดเสียง ปิดสั่นทิ้งไว้ในรถเมื่อท่านต้องจอดในบริเวณที่มีความเสี่ยง และล็อครถ ของท่านตามปกติ กรณีเกิดรถหาย ให้แจ้งที่ 191 เพื่อให้เจ้าหน้าที่ประสานงานกับผู้ให้บริการเครือข่ายของหมายเลขโทรศัพท์ที่ท่านซ่อนไว้ในรถเพื่อค้นหาตำแหน่งของรถท่าน เพื่อการติดตามจับกุมได้อย่างรวดเร็ว โดยส่วนใหญ่ รถที่หายจะยังอยู่บนถนน หากที่ใดมีคลื่นโทรศัพท์ ก็จะสามารถระบุตำแหน่งได้ ทุกวันนี้ซิมการ์ดระบบเติมเงินบางระบบเติมเท่าใดก็ใช้ได้เป็นปี ราคาไม่กี่ร้อย บวกค่าโทรศัพท์ที่ท่านหาซื้อได้ในราคาแค่พันต้นๆ ถือเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าที่สุดแล้วครับ. อย่าลืมบอกต่อนะครับ
จึงเรียนมาเพื่อทราบ
ขอแสดงความนับถือ